อุปกรณ์แคสต์หรือไอคอนแคสต์ไม่แสดงในแอป Netflix

หากแตะปุ่มแคสต์ แล้วไม่เห็นอุปกรณ์ใดๆ หรือไม่มีปุ่มแคสต์ปรากฏขึ้นเลย นั่นหมายความว่าระบบไม่พบอุปกรณ์ เนื่องจากปัญหาเครือข่ายหรือการตั้งค่า หรือไม่มีอุปกรณ์ที่รองรับ Netflix เพื่อให้แคสต์ไปยังอุปกรณ์นั้น

หากไม่ได้ใช้อุปกรณ์ที่แสดงในรายการด้านล่าง คุณจะไม่สามารถแคสต์ Netflix จากโทรศัพท์ หรือแท็บเล็ตไปยังทีวีได้ (โปรดใช้รีโมทที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ เพื่อเข้าใช้งานและดู)

  • Chromecast รุ่นที่ 3 หรือเก่ากว่า (รุ่นที่ไม่มีรีโมท)

  • Google Nest Hub Smart Display

  • ทีวี Vizio บางรุ่นที่ใช้การแคสต์ได้

  • ทีวี Compal บางรุ่นที่ใช้การแคสต์ได้

หากมีอุปกรณ์ที่ระบุข้างต้น แต่ยังคงมีปัญหาในการแคสต์ โปรดไปที่ขั้นตอนการแก้ไขปัญหาในขั้นต่อไป

ทำตามขั้นตอนสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งาน

  1. ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android ให้เปิดแอป การตั้งค่า

  2. แตะ Google > อุปกรณ์และการแชร์ > ตัวเลือกแคสต์

  3. เปิดใช้งาน โหมดผู้ใช้ชั่วคราว หรือ ใช้ข้อมูลเครือข่าย

  4. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

หมายเหตุ: โหมดผู้ใช้ชั่วคราวจะปิดอัตโนมัติ หลังจาก 2 ชั่วโมง คุณจะต้องเปิดใหม่อีกครั้งเพื่อดูต่อ

  1. เปิดแอป Google Home ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android หากไม่มีแอปดังกล่าว สามารถดาวน์โหลดได้จาก Google Play Store

  2. แตะไอคอน Home (บ้าน) ด้านซ้ายล่าง แล้วเลื่อนลงเพื่อหา Chromecast

    • หากไม่พบ Chromecast หรือแสดงสถานะ Offline (ออฟไลน์) คุณอาจต้องเสียบปลั๊กอุปกรณ์หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์ โดยใช้เครือข่ายเดียวกันกับโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตที่ใช้งาน สำหรับความช่วยเหลือ ให้ทำตามขั้นตอนของ Google เพื่อเชื่อมต่อ Chromecast กับเครือข่ายอื่น

    • หาก Chromecast แสดงสถานะ On (เปิด) แสดงว่าอยู่ในเครือข่ายที่ถูกต้อง

  3. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

คุณอาจต้องอัปเดตแอป Google Home และแอป Google Play Services เพื่อแก้ไขปัญหา

วิธีอัปเดตแอปในโทรศัพท์

หมายเหตุ: หากไม่ได้เชื่อมต่อ Wi-Fi หรือต้องการประหยัดการใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตมือถือ สามารถทำตามขั้นตอนของ Google เพื่ออัปเดตทีละแอปได้

  1. เปิดแอป Google Play Store

  2. แตะไอคอนโปรไฟล์ที่ด้านขวาบน

  3. แตะ จัดการแอปและอุปกรณ์

  4. ด้านล่าง Updates available (รายการอัปเดตที่ใช้ได้) ให้แตะ Update all (อัปเดตทั้งหมด) หากไม่มีตัวเลือกนี้ แสดงว่าแอปของคุณเป็นเวอร์ชันปัจจุบันแล้ว

  5. หลังจากอัปเดตเสร็จแล้ว ให้ปิดและเปิดแอป Netflix ใหม่ แล้วลองแคสต์อีกครั้ง

Tablet with power icon indicating turn off process

  1. ปิดโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นการปิดเครื่อง ไม่ใช่แค่ล็อกหน้าจอ

  2. เปิดเครื่องอีกครั้ง

  3. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

Illustration of a TV with a power button symbol, a power strip, and a 15-second timer, suggesting a restart device process

  1. ปิดอุปกรณ์ของคุณ ถอดปลั๊ก หากอุปกรณ์ที่ใช้มีสายไฟ

  2. ตรวจสอบว่าได้ปิดอุปกรณ์โดยสมบูรณ์แล้ว และไม่ได้อยู่ในโหมดสลีปหรือสแตนด์บาย

  3. ปิดอุปกรณ์ไว้ 15 วินาที

  4. เปิดอุปกรณ์ของคุณ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

หากต้องการใช้ Netflix กับอุปกรณ์ที่รองรับการแคสต์ อุปกรณ์ Android ของคุณต้องใช้ Android OS เวอร์ชัน 9 ขึ้นไป

วิธีตรวจสอบเวอร์ชัน

  1. ไปที่ การตั้งค่า > ระบบ > อัปเดตซอฟต์แวร์

  2. แตะ อัปเดตระบบ

  3. หากหมายเลขเวอร์ชันคือ 8 หรือน้อยกว่า คุณจะต้องอัปเดตอุปกรณ์ Android แล้วลองอีกครั้ง

หากทำตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว แต่ยังคงมีปัญหา โปรดติดต่อเรา เพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม

วิธีทำให้ Netflix พบ Chromecast หรือทีวีในเครือข่ายที่ใช้ในพื้นที่

  1. เปิด การตั้งค่า

  2. ค้นหาและแตะ Netflix จากรายชื่อที่ปรากฏ

  3. ตรวจให้แน่ใจว่าการตั้งค่าเครือข่ายที่ใช้ในพื้นที่ (Local Network) เปิดอยู่

  1. เปิดแอป Google Home ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android หากไม่มีแอปดังกล่าว สามารถดาวน์โหลดได้จาก Google Play Store

  2. แตะไอคอน Home (บ้าน) ด้านซ้ายล่าง แล้วเลื่อนลงเพื่อหา Chromecast

    • หากไม่พบ Chromecast หรือแสดงสถานะ Offline (ออฟไลน์) คุณอาจต้องเสียบปลั๊กอุปกรณ์หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์ โดยใช้เครือข่ายเดียวกันกับโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตที่ใช้งาน สำหรับความช่วยเหลือ ให้ทำตามขั้นตอนของ Google เพื่อเชื่อมต่อ Chromecast กับเครือข่ายอื่น

    • หาก Chromecast แสดงสถานะ On (เปิด) แสดงว่าอยู่ในเครือข่ายที่ถูกต้อง

  3. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

คุณอาจต้องอัปเดตแอป Google Home เพื่อแก้ไขปัญหา

วิธีอัปเดตแอปใน iPhone หรือ iPad

หมายเหตุ: หากไม่ได้เชื่อมต่อ Wi-Fi หรือต้องการประหยัดการใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ตมือถือ สามารถทำตามขั้นตอนของ Apple เพื่ออัปเดตทีละแอปได้

  1. เปิดแอป App Store

  2. แตะไอคอนโปรไฟล์ที่ด้านขวาบน

  3. แตะ แอป

  4. ค้นหาแอป Google Home ในรายการ

  5. แตะปุ่ม อัปเดต หากไม่เห็นตัวเลือกนี้ แสดงว่าแอปเป็นเวอร์ชันปัจจุบันแล้ว

  6. หลังจากอัปเดตเสร็จแล้ว ให้ปิดและเปิดแอป Netflix ใหม่ แล้วลองแคสต์อีกครั้ง

  1. กดปุ่มด้านข้างและปุ่มปรับระดับเสียงปุ่มหนึ่งค้างไว้พร้อมกันจนกว่าแถบเลื่อนจะปรากฏขึ้น ลากแถบเลื่อนด้านบนเพื่อปิดอุปกรณ์อย่างสมบูรณ์

    • หากแถบเลื่อนไม่ปรากฏ ให้กดปุ่ม Sleep/Wake ค้างไว้จนแถบเลื่อนสีแดงปรากฏขึ้น แล้วจึงลากแถบเลื่อนดังกล่าว

  2. หลังจาก 10 วินาที กดปุ่ม Sleep/Wake

  3. เมื่ออุปกรณ์เปิดทำงานเรียบร้อยแล้ว ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

Illustration of a TV with a power button symbol, a power strip, and a 15-second timer, suggesting a restart device process

  1. ปิดอุปกรณ์ของคุณ ถอดปลั๊ก หากอุปกรณ์ที่ใช้มีสายไฟ

  2. ตรวจสอบว่าได้ปิดอุปกรณ์โดยสมบูรณ์แล้ว และไม่ได้อยู่ในโหมดสลีปหรือสแตนด์บาย

  3. ปิดอุปกรณ์ไว้ 15 วินาที

  4. เปิดอุปกรณ์ของคุณ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

หากต้องการใช้ Netflix กับอุปกรณ์ที่รองรับการแคสต์ iPhone หรือ iPad ของคุณต้องใช้ iOS หรือ iPadOS เวอร์ชัน 16 ขึ้นไป

วิธีตรวจสอบเวอร์ชัน

  1. ไปที่ Settings (การตั้งค่า)

  2. เลื่อนลงแล้วแตะ General (ทั่วไป)

  3. แตะ About (เกี่ยวกับ).

  4. ข้าง Version (เวอร์ชัน) ให้สังเกตหมายเลขเวอร์ชัน

หากหมายเลขเวอร์ชันต่ำกว่า 16 ให้ทำตามขั้นตอนของ Apple ในการอัปเดต iPhone หรือ iPad แล้วลองอีกครั้ง

หากทำตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว แต่ยังคงมีปัญหา โปรดติดต่อเรา เพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม

บทความที่เกี่ยวข้อง