Netflix ระบุว่า "ดูเหมือนคุณกำลังใช้ VPN หรือพร็อกซี"

หากได้รับรหัสข้อผิดพลาด E106 หรือข้อความต่อไปนี้

ดูเหมือนคุณกำลังใช้ VPN หรือพร็อกซี โปรดปิดบริการเหล่านี้ แล้วลองอีกครั้ง

หมายความว่าอุปกรณ์หรือเครือข่ายเชื่อมต่อ Netflix ผ่านทางบริการ VPN หรือพร็อกซี VPN จะเปลี่ยนหรือซ่อนตำแหน่งที่ตั้งทางอินเทอร์เน็ตของคุณ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหา หากต้องการรับชมต่อ ให้ปิด VPN ที่กำลังใช้งาน

ไม่สามารถใช้ VPN ขณะรับชมกิจกรรมไลฟ์สดใน Netflix หรือเมื่อใช้แพ็คเกจแบบมีโฆษณา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ VPN กับ Netflix

หากยังพบปัญหาอยู่ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสบางอย่าง อาจมี VPN ซึ่งอาจเปิดใช้งานอยู่ หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม หรือรับความช่วยเหลือ โปรดติดต่อผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส

หากคุณใช้ VPN ให้ลองปิดใช้งาน

หากไม่แน่ใจว่า VPN เปิดอยู่หรือไม่ ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้

  1. เปิดเว็บเบราว์เซอร์ในอุปกรณ์ที่อยู่บนเครือข่ายเดียวกันกับอุปกรณ์ที่มีปัญหา

  2. ไปที่ fast.com Netflix จะเริ่มทดสอบการเชื่อมต่อ

  3. เมื่อทดสอบเสร็จ ให้คลิก Show more info (แสดงข้อมูลเพิ่มเติม)

  4. ดูข้อมูลประเทศที่อยู่ข้าง Client (ผู้รับข้อมูล)

  5. หากประเทศไม่ตรงกับตำแหน่งที่ตั้งของคุณ หมายความว่าอุปกรณ์หรือเครือข่ายของคุณเปิดใช้ VPN อยู่ ลองปิด VPN แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

สิ่งที่ควรทราบมีดังนี้

  • ฝ่ายบริการลูกค้าของ Netflix ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับ VPN ได้ เนื่องจากขั้นตอนสำหรับแต่ละ VPN จะแตกต่างกันไป หากต้องการความช่วยเหลือ โปรดติดต่อผู้ให้บริการ VPN ของคุณ

  • หากปิด VPN แล้ว แต่ยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ หรือตำแหน่งที่ตั้งจาก fast.com ตรงกับตำแหน่งที่ตั้งของคุณ ให้ดำเนินการตามขั้นตอนด้านล่าง

ไม่สามารถใช้ VPN ระหว่างรับชม Netflix หากใช้แพ็คเกจแบบมีโฆษณา

ไปที่หน้าบัญชี เพื่อตรวจสอบแพ็คเกจปัจจุบัน

หากใช้แพ็คเกจแบบมีโฆษณา:

หากไม่ได้ใช้แพ็คเกจแบบมีโฆษณา หรือต้องการตรวจสอบว่า VPN เปิดอยู่หรือไม่ ให้ดำเนินการต่อในขั้นตอนถัดไป

อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการตั้งค่าเครือข่ายในอุปกรณ์ โมเด็ม หรือเราเตอร์ที่ใช้งาน

ลองทำขั้นตอนต่อไปนี้ หลังจากทำแต่ละขั้นตอนแล้ว ให้ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

หมายเหตุ:สำหรับความช่วยเหลือในการทำขั้นตอนเหล่านี้ คุณอาจต้องติดต่อบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) หรือผู้ให้บริการ VPN ที่คุณใช้งาน

  1. หากคุณใช้ VPN ให้ลองปิดใช้งาน

  2. รีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่ายในอุปกรณ์ที่มีปัญหา

  3. คืนการตั้งค่าโมเด็มหรือเราเตอร์กลับไปเป็นค่าเริ่มต้น

หากทำตามขั้นตอนก่อนหน้านี้แล้วยังพบปัญหาอยู่ คุณต้องติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) เพื่อรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหา

ก่อนติดต่อ ISP ของคุณ

เมื่อติดต่อ ISP จะต้องใช้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับเครือข่ายที่ใช้งาน

  1. ใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือที่ใช้เครือข่ายเดียวกับอุปกรณ์ที่พบปัญหา แล้วเปิดเว็บเบราว์เซอร์

  2. ไปที่ fast.com Netflix จะเริ่มทดสอบการเชื่อมต่อ

  3. เมื่อทดสอบเสร็จ ให้คลิก Show more info (แสดงข้อมูลเพิ่มเติม)

  4. ดูข้อมูลประเทศและที่อยู่ IP ที่อยู่ถัดจาก Client (ผู้รับข้อมูล)

    หมายเหตุ:ที่อยู่ IP คือกลุ่มตัวเลขและ/หรือตัวอักษรที่มีเครื่องหมายจุด (.) หรือทวิภาค (:) ขั้นอยู่

เมื่อติดต่อ ISP ของคุณ

  1. ให้แจ้งปัญหาที่พบ และขั้นตอนการแก้ไขปัญหาที่ดำเนินการไปแล้ว

  2. บอกข้อมูลประเทศและที่อยู่ IP ที่ได้รับจากขั้นตอนก่อนหน้า จากนั้นให้ ISP ยืนยันว่าตรงกับตำแหน่งและที่อยู่ IP ที่กำหนดไว้สำหรับเครือข่ายภายในบ้านของคุณ

    • หากข้อมูลตรงกัน ISP จะต้องทำงานร่วมกับ Netflix โดยตรง เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โปรดแจ้งให้ทาง ISP ติดต่อทีมฝ่ายบริการลูกค้าของเรา

    • หากข้อมูลไม่ตรงกัน โปรดขอให้ ISP ยืนยันว่าการเชื่อมต่อของคุณใช้เซิร์ฟเวอร์ DNS ของ ISP

      • หากใช้เซิร์ฟเวอร์ DNS ของ ISP ทาง ISP จะต้องทำงานร่วมกับ Netflix โดยตรงเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โปรดแจ้งให้ทาง ISP ติดต่อทีมฝ่ายบริการลูกค้าของเรา

      • หากไม่ได้ใช้เซิร์ฟเวอร์ DNS ของ ISP โปรดขอให้ทาง ISP ช่วยเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ DNS ให้เป็นของ ISP จากนั้นรีสตาร์ทแอป Netflix แล้วลองใช้งานอีกครั้ง

บทความที่เกี่ยวข้อง