ข้อผิดพลาด Netflix ui-800-3 (205040)
เกิดข้อผิดพลาดขึ้นกับ Netflix ลองอีกครั้งใน [X] วินาที
รหัส: ui-800-3 (205040)
ข้อผิดพลาดจะเกิดขึ้นเมื่อปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในอุปกรณ์ทำให้ Netflix หยุดเล่น
โปรดทำตามขั้นตอนสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งาน เพื่อแก้ไขปัญหา
ทีวีและเครื่องเล่นมีเดียสตรีมมิง
สมาร์ททีวี
ไปที่หน้าจอหลักของ Netflix จากนั้นไปทางด้านซ้ายเพื่อเปิดเมนู
จากด้านล่าง ให้เลือกขอความช่วยเหลือ > ออกจากระบบ > ใช่
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากอุปกรณ์อยู่ในหน้าจอข้อผิดพลาด ให้ทำดังนี้
เลือก "รายละเอียดเพิ่มเติม"
เลือก "ออกจากระบบ" หรือ "รีเซ็ต"
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หาไม่พบตัวเลือก รับความช่วยเหลือ หรือ ออกจากระบบ ให้ทำดังนี้
กดปุ่มต่อไปนี้บนรีโมทตามลำดับดังนี้ ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น
เลือก ออกจากระบบ รีเซ็ต หรือ ปิดใช้งาน จากเมนูที่ปรากฏ
Fire TV/Stick
การออกจากระบบของ Netflix
ไปที่หน้าจอหลักของ Netflix จากนั้นไปทางด้านซ้ายเพื่อเปิดเมนู
จากด้านล่าง ให้เลือกขอความช่วยเหลือ > ออกจากระบบ > ใช่
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากอุปกรณ์อยู่ในหน้าจอข้อผิดพลาด ให้ทำดังนี้
เลือก "รายละเอียดเพิ่มเติม"
เลือก "ออกจากระบบ" หรือ "รีเซ็ต"
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หาไม่พบตัวเลือก รับความช่วยเหลือ หรือ ออกจากระบบ ให้ทำดังนี้
กดปุ่มต่อไปนี้บนรีโมทตามลำดับดังนี้ ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น
เลือก ออกจากระบบ รีเซ็ต หรือ ปิดใช้งาน จากเมนูที่ปรากฏ
การติดตั้งแอป Netflix ใหม่อีกครั้ง
วิธีถอนการติดตั้ง Netflix:
หากใช้รีโมท Fire TV ให้กด Home (หน้าหลัก)
ไปที่แอป Netflix จากนั้นกด Options (ตัวเลือก)
เลือก Uninstall (ถอนการติดตั้ง)
เลือก Uninstall (ถอนการติดตั้ง) อีกครั้งเพื่อยืนยัน
วิธีติดตั้ง Netflix อีกครั้ง:
หากใช้รีโมท Fire TV ให้กดปุ่ม Netflix
เลือก Download (ดาวน์โหลด) จากนั้นเลือก Open (เปิด)
ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
Roku TV/Stick
การออกจากระบบของ Netflix
ไปที่หน้าจอหลักของ Netflix จากนั้นไปทางด้านซ้ายเพื่อเปิดเมนู
จากด้านล่าง ให้เลือกขอความช่วยเหลือ > ออกจากระบบ > ใช่
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากอุปกรณ์อยู่ในหน้าจอข้อผิดพลาด ให้ทำดังนี้
เลือก "รายละเอียดเพิ่มเติม"
เลือก "ออกจากระบบ" หรือ "รีเซ็ต"
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หาไม่พบตัวเลือก รับความช่วยเหลือ หรือ ออกจากระบบ ให้ทำดังนี้
กดปุ่มต่อไปนี้บนรีโมทตามลำดับดังนี้ ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น
เลือก ออกจากระบบ รีเซ็ต หรือ ปิดใช้งาน จากเมนูที่ปรากฏ
การปิดใช้งานและเปิดใช้งานแอป Netflix อีกครั้ง
Roku 1
กดปุ่ม "หน้าหลัก" บนรีโมทของ Roku เพื่อไปยังหน้าหลักของ Roku
เลือก "การตั้งค่า"
เลือก "การตั้งค่า Netflix"
เลือก "ปิดใช้งานเครื่องเล่นนี้จากบัญชี Netflix ของฉัน"
เลือก "ใช่" ตอนนี้อุปกรณ์ปิดใช้งานแล้ว
เลือก Netflix จากหน้าจอหลักและทำตามข้อความแจ้งเตือนเพื่อเปิดใช้งานแอปอีกครั้ง
เข้าสู่ระบบบัญชีของคุณแล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
Roku รุ่นอื่นๆ ทั้งหมด
กดปุ่ม "หน้าหลัก" บนรีโมทของ Roku เพื่อไปยังหน้าหลักของ Roku
ไฮไลท์ที่แอป Netflix แล้วกดปุ่ม "ดาว" บนรีโมท
เลือก "ลบช่องความบันเทิง"
เลือก "ลบช่องความบันเทิง" อีกครั้งเพื่อยืนยัน
จากหน้าจอหลัก เลือก "ช่องสำหรับสตรีมมิง"
เลือก "ภาพยนตร์และทีวี"
เลือก Netflix
เลือก "เพิ่มช่องความบันเทิง"
เลือก "ไปยังช่องความบันเทิง"
เข้าสู่ระบบบัญชีของคุณแล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
กล่องรับสัญญาณ
ไปที่หน้าจอหลักของ Netflix จากนั้นไปทางด้านซ้ายเพื่อเปิดเมนู
จากด้านล่าง ให้เลือกขอความช่วยเหลือ > ออกจากระบบ > ใช่
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากอุปกรณ์อยู่ในหน้าจอข้อผิดพลาด ให้ทำดังนี้
เลือก "รายละเอียดเพิ่มเติม"
เลือก "ออกจากระบบ" หรือ "รีเซ็ต"
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หาไม่พบตัวเลือก รับความช่วยเหลือ หรือ ออกจากระบบ ให้ทำดังนี้
กดปุ่มต่อไปนี้บนรีโมทตามลำดับดังนี้ ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น
เลือก ออกจากระบบ รีเซ็ต หรือ ปิดใช้งาน จากเมนูที่ปรากฏ
เครื่องเล่น Blu-ray
ไปที่หน้าจอหลักของ Netflix จากนั้นไปทางด้านซ้ายเพื่อเปิดเมนู
จากด้านล่าง ให้เลือกขอความช่วยเหลือ > ออกจากระบบ > ใช่
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากอุปกรณ์อยู่ในหน้าจอข้อผิดพลาด ให้ทำดังนี้
เลือก "รายละเอียดเพิ่มเติม"
เลือก "ออกจากระบบ" หรือ "รีเซ็ต"
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หาไม่พบตัวเลือก รับความช่วยเหลือ หรือ ออกจากระบบ ให้ทำดังนี้
กดปุ่มต่อไปนี้บนรีโมทตามลำดับดังนี้ ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น
เลือก ออกจากระบบ รีเซ็ต หรือ ปิดใช้งาน จากเมนูที่ปรากฏ
คอนโซลเครื่องเล่นวิดีโอเกม
PlayStation 5
การออกจากระบบของ Netflix
ไปที่หน้าจอหลักของ Netflix จากนั้นไปทางด้านซ้ายเพื่อเปิดเมนู
จากด้านล่าง ให้เลือกขอความช่วยเหลือ > ออกจากระบบ > ใช่
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากอุปกรณ์อยู่ในหน้าจอข้อผิดพลาด ให้ทำดังนี้
เลือก "รายละเอียดเพิ่มเติม"
เลือก "ออกจากระบบ" หรือ "รีเซ็ต"
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หาไม่พบตัวเลือก รับความช่วยเหลือ หรือ ออกจากระบบ ให้ทำดังนี้
กดปุ่มต่อไปนี้บนรีโมทตามลำดับดังนี้ ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น
เลือก ออกจากระบบ รีเซ็ต หรือ ปิดใช้งาน จากเมนูที่ปรากฏ
PlayStation 4
ไปที่หน้าจอหลักของ Netflix จากนั้นไปทางด้านซ้ายเพื่อเปิดเมนู
จากด้านล่าง ให้เลือกขอความช่วยเหลือ > ออกจากระบบ > ใช่
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากอุปกรณ์อยู่ในหน้าจอข้อผิดพลาด ให้ทำดังนี้
เลือก "รายละเอียดเพิ่มเติม"
เลือก "ออกจากระบบ" หรือ "รีเซ็ต"
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หาไม่พบตัวเลือก รับความช่วยเหลือ หรือ ออกจากระบบ ให้ทำดังนี้
กดปุ่มต่อไปนี้บนรีโมทตามลำดับดังนี้ ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น
เลือก ออกจากระบบ รีเซ็ต หรือ ปิดใช้งาน จากเมนูที่ปรากฏ
PlayStation 3
เริ่มต้นจากหน้าจอหลักของ PS3
หากไม่ได้อยู่ที่หน้าจอหลัก ให้กดปุ่ม PS3 ตรงกลางของอุปกรณ์ควบคุมค้างไว้ แล้วเลือก "ออก" จากนั้นเลือก "ใช่"
เข้าไปที่หัวข้อ "การบริการสำหรับทีวี/วิดีโอ" และไฮไลท์ที่ Netflix
กดปุ่ม X
หลังจากกดปุ่ม X แล้ว ให้กดปุ่ม Start และ Select ค้างไว้จนกว่าจะเห็นข้อความที่ถามว่า "ต้องการรีเซ็ตการตั้งค่า Netflix แล้วลงทะเบียนอีกครั้งหรือไม่"
เลือก "ใช่"
ป้อนที่อยู่อีเมลและรหัสผ่าน แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
Xbox Series X/S
การออกจากระบบของ Netflix
ไปที่หน้าจอหลักของ Netflix จากนั้นไปทางด้านซ้ายเพื่อเปิดเมนู
จากด้านล่าง ให้เลือกขอความช่วยเหลือ > ออกจากระบบ > ใช่
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากอุปกรณ์อยู่ในหน้าจอข้อผิดพลาด ให้ทำดังนี้
เลือก "รายละเอียดเพิ่มเติม"
เลือก "ออกจากระบบ" หรือ "รีเซ็ต"
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หาไม่พบตัวเลือก รับความช่วยเหลือ หรือ ออกจากระบบ ให้ทำดังนี้
กดปุ่มต่อไปนี้บนรีโมทตามลำดับดังนี้ ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น
เลือก ออกจากระบบ รีเซ็ต หรือ ปิดใช้งาน จากเมนูที่ปรากฏ
Xbox One
การออกจากระบบของ Netflix
ไปที่หน้าจอหลักของ Netflix จากนั้นไปทางด้านซ้ายเพื่อเปิดเมนู
จากด้านล่าง ให้เลือกขอความช่วยเหลือ > ออกจากระบบ > ใช่
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากอุปกรณ์อยู่ในหน้าจอข้อผิดพลาด ให้ทำดังนี้
เลือก "รายละเอียดเพิ่มเติม"
เลือก "ออกจากระบบ" หรือ "รีเซ็ต"
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หาไม่พบตัวเลือก รับความช่วยเหลือ หรือ ออกจากระบบ ให้ทำดังนี้
กดปุ่มต่อไปนี้บนรีโมทตามลำดับดังนี้ ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น
เลือก ออกจากระบบ รีเซ็ต หรือ ปิดใช้งาน จากเมนูที่ปรากฏ
การถอนการติดตั้งและการติดตั้งแอป Netflix ใหม่อีกครั้ง
การถอนการติดตั้งแอป Netflix:
เริ่มต้นจาก "บอร์ดควบคุมของ Xbox"
เลือก "เกมและแอปของฉัน"
โปรดทราบ:อาจต้องเลื่อนลงด้านล่างเพื่อให้เห็นตัวเลือกนี้เลือก "แอป" จากตัวเลือกทางด้านซ้าย
เลือกโดยไฮไลท์ที่แอป Netflix แล้วกดปุ่ม "เมนู" บนอุปกรณ์ควบคุม
เลือก "จัดการแอป"
เลือก "ถอนการติดตั้งทั้งหมด"
เลือก "ถอนการติดตั้งทั้งหมด" อีกครั้งเพื่อยืนยัน
การติดตั้งแอป Netflix ใหม่อีกครั้ง:
เริ่มต้นจากหน้าจอในหน้าหลักของ Xbox One
เลื่อนไปทางขวาเพื่อเข้าสู่ "ร้านค้า"
ในหัวข้อ "แอป" ให้เลือกNetflix
โปรดทราบ:หากไม่เห็น Netflix ให้เลือก Search all apps (ค้นหาแอปทั้งหมด) เพื่อค้นหา Netflixเลือก "ติดตั้ง"
หลังดาวน์โหลดแอปเสร็จ เลือก "เปิด" เพื่อลงชื่อเข้าสู่ระบบและลองใช้ Netflix อีกครั้ง
Xbox 360
การออกจากระบบของ Netflix
ไปที่หน้าจอหลักของ Netflix จากนั้นไปทางด้านซ้ายเพื่อเปิดเมนู
จากด้านล่าง ให้เลือกขอความช่วยเหลือ > ออกจากระบบ > ใช่
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากอุปกรณ์อยู่ในหน้าจอข้อผิดพลาด ให้ทำดังนี้
เลือก "รายละเอียดเพิ่มเติม"
เลือก "ออกจากระบบ" หรือ "รีเซ็ต"
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หาไม่พบตัวเลือก รับความช่วยเหลือ หรือ ออกจากระบบ ให้ทำดังนี้
กดปุ่มต่อไปนี้บนรีโมทตามลำดับดังนี้ ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น
เลือก ออกจากระบบ รีเซ็ต หรือ ปิดใช้งาน จากเมนูที่ปรากฏ
การถอนการติดตั้งและการติดตั้งแอป Netflix ใหม่อีกครั้ง
การถอนการติดตั้ง Netflix
จากแดชบอร์ดของ Xbox 360 ให้ไปที่ Apps (แอป) > My Apps (แอปของฉัน)
เลือกโดยไฮไลท์ที่แอป Netflix
กดปุ่ม "X" สำหรับรายละเอียดของแอป
เลือก Delete (ลบ) > Yes (ใช่)
การติดตั้ง Netflix ใหม่อีกครั้ง
จากแดชบอร์ดของ Xbox 360 ให้ไปที่ Apps (แอป)
เลือก Netflix เพื่อดาวน์โหลดแอป
ลองใช้ Netflix อีกครั้ง