วิธีรับชมด้วยคุณภาพวิดีโอที่ดีที่สุด

ตรวจให้แน่ใจว่ากำลังรับชม Netflix ด้วยคุณภาพสูงสุดที่มีให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นในแบบ HD, 4K Ultra HD หรือ HDR

คุณจะรับชมด้วยคุณภาพดีที่สุดโดยอัตโนมัติ แต่หากคุณภาพไม่ดีตามที่คาดหวัง บทความนี้อาจช่วยได้

หากต้องการเปลี่ยนคุณภาพวิดีโอของเนื้อหาดาวน์โหลด ให้ดูที่วิธีเปลี่ยนคุณภาพวิดีโอของเนื้อหาดาวน์โหลด


ทำตามแต่ละขั้นตอนด้านล่าง หากทำการเปลี่ยนแปลง ให้หยุดแล้วตรวจสอบดูว่าเกิดความแตกต่างไหมก่อนจะทำขั้นตอนต่อไป

สิ่งแรกที่ควรทราบคือ ทีวีซีรีส์และภาพยนตร์ทุกเรื่องใน Netflix มีหน้ารายละเอียดที่มีคำอธิบายของเนื้อหา ระดับความเหมาะสม และข้อมูลอื่นๆ และในหน้านี้ยังมีป้ายกำกับคุณภาพวิดีโอ ซึ่งแสดงคุณภาพที่เนื้อหานั้นจะเล่นในอุปกรณ์ที่คุณกำลังใช้งาน

ความละเอียด (รายละเอียดของภาพ)


4K: ความละเอียดสูงสุดในปัจจุบันที่มีให้บริการใน Netflix หรือเรียกว่า Ultra HD หรือ 4K Ultra HD


HD: มีทั้งระดับความคมชัดสูงเต็มรูปแบบ (1080p) หรือความคมชัดสูง (720p)

ช่วงค่าระดับความสว่าง (ความเข้มจางและความมีสีสัน)

หรือ
Dolby Vision: ระบบช่วงค่าระดับความสว่างสูง (HDR) พัฒนาโดย Dolby Laboratories


HDR: อีกระบบหนึ่งของช่วงค่าระดับความสว่างสูง หรือเรียกอีกชื่อว่า HDR10 หรือ HDR10+

ในทีวีส่วนใหญ่ Netflix จะแสดงป้ายกำกับความละเอียดเสมอ และหากมีตัวเลือกความคมชัดสูง ก็จะมีป้ายกำกับสำหรับระบบความคมชัดสูงที่เนื้อหาจะใช้เล่นในทีวีด้วย

ในทีวีบางรุ่นและอุปกรณ์อื่นๆ คุณจะเห็นป้ายกำกับคุณภาพวิดีโอเพียงป้ายเดียว แม้จะมีคุณภาพอื่นให้ใช้ได้ หากเนื้อหาและอุปกรณ์รองรับช่วงค่าระดับความสว่างสูง ก็จะแสดงป้ายกำกับนี้ เช่น หากเนื้อหาเล่นในความละเอียดแบบ 4K และรองรับ Dolby Vision ในอุปกรณ์ด้วย ระบบจะแสดงป้ายกำกับ Dolby Vision เท่านั้น

ดังนั้น ให้มองหาป้ายกำกับ 4K และ HD เพื่อตรวจสอบความละเอียด และป้ายกำกับ Dolby Vision และ HDR เพื่อตรวจสอบขอบเขตรายละเอียดของภาพสูง ในขั้นตอนที่ 5 ด้านล่าง เป็นเนื้อหาที่ใช้ตรวจสอบคุณภาพแต่ละรูปแบบ

หมายเหตุ:อุปกรณ์มือถือบางรุ่นอาจไม่สตรีมในรูปแบบ HDR เสมอไป แม้จะมีป้ายกำกับ HDR label แสดงอยู่ เช่น เมื่ออุปกรณ์อยู่ในโหมดพลังงานต่ำ หรือกำลังใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมือถือ

ตรวจสอบว่าคุณใช้แพ็คเกจใด และดูให้แน่ใจว่ารองรับคุณภาพที่ต้องการใช้งาน

หมายเหตุ:หากกำลังรับชมในอุปกรณ์ที่สามารถเล่นในคุณภาพดีกว่าที่มีให้บริการในแพ็คเกจที่ใช้งาน เราอาจเชิญชวนให้คุณอัปเกรดแพ็คเกจ เพื่อให้ใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ได้สูงสุด

Netflix จะปรับตามความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะรับชมได้อย่างต่อเนื่อง โดยอาจสตรีมในคุณภาพต่ำกว่าเมื่อความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีความล่าช้าหรือไม่เสถียร

หมายเหตุ:บางครั้งเนื้อหาจะเริ่มต้นด้วยความละเอียดต่ำ จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นความละเอียดที่สูงขึ้นในเวลาสั้นๆ

โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ เพื่อตรวจสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์

  1. เปิดแอป Netflix แล้วเลือกโปรไฟล์

  2. ในหน้าจอหลักของ Netflix ให้ไปที่ด้านซ้ายเพื่อเปิดเมนู

  3. จากด้านล่าง ให้เลือก ขอความช่วยเหลือ > ตรวจสอบเครือข่ายของคุณ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ความเร็วที่แสดงบนอุปกรณ์ตรงกับความเร็วอินเทอร์เน็ตที่แนะนำของ Netflix หรือหรือสูงกว่า สำหรับความละเอียดที่ต้องการ

  1. เปิดแอป Netflix

  2. แตะ Netflix ของฉัน ที่ด้านขวาล่าง

  3. แตะ เมนู ที่ด้านขวาบน

  4. แตะ การตั้งค่าแอป

  5. เลื่อนลงแล้วแตะ ทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ต

  6. เมื่อทดสอบเสร็จแล้ว โปรดตรวจให้มั่นใจว่า ความเร็วของเครือข่ายสอดคล้องกับความเร็วอินเทอร์เน็ตที่แนะนำของ Netflix

หากได้รับข้อความข้อผิดพลาด หรือหน้าเพจไม่โหลด หมายความว่าอุปกรณ์ของคุณไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต คุณอาจต้องแก้ไขปัญหาเครือข่ายในบ้านและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์มือถือ

ใช้เบราว์เซอร์แล้วไปที่ fast.com จากนั้นรอจนการทดสอบเสร็จสิ้น

ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ความเร็วที่แสดงในเบราว์เซอร์ตรงกับความเร็วอินเทอร์เน็ตที่แนะนำของ Netflix หรือสูงกว่า สำหรับความละเอียดที่คุณต้องการ

เพื่อให้รับชมในคุณภาพดีที่สุดสำหรับแพ็คเกจที่ใช้งาน อุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้งานต้องรองรับความละเอียดนั้นด้วย หากใช้แพ็คเกจพรีเมียม และต้องการรับชมในทีวีด้วยอุปกรณ์สตรีมมิงและตัวรับสัญญาณเสียง อุปกรณ์ทั้งสามประเภทนี้ต้องรองรับรูปแบบ 4K เพื่อให้รับชมในความละเอียด 4K หรือ HDR เพื่อรับชมในรูปแบบ HDR

  • นอกจากนี้ ควรตรวจสอบด้วยว่า อุปกรณ์ทุกเครื่องใช้ซอฟต์แวร์หรือเฟิร์มแวร์เวอร์ชันล่าสุด ตลอดจนการตั้งค่าความละเอียดวิดีโอ ที่เทียบเท่าหรือสูงกว่าคุณภาพที่ต้องการใช้งาน

  • สายสัญญาณวิดีโอและพอร์ตเชื่อมต่อก็ต้องรองรับคุณภาพในแพ็คเกจด้วยเช่นกัน สำหรับแพ็คเกจพรีเมียม คุณต้องใช้สาย Premium High Speed HDMI หรือ Ultra High Speed HDMI (หากไม่แน่ใจว่าคุณมีสายประเภทไหน ให้ดูข้อความที่พิมพ์อยู่บนสายหรือปลายสาย)

  • สำหรับความละเอียดแบบ 4K หรือรูปแบบ HDR ให้ตรวจสอบว่าอุปกรณ์และสายสัญญาณเชื่อมต่อกับพอร์ต HDMI ที่รองรับ HDCP 2.2 ขึ้นไป (ปกติคือพอร์ต HDMI 1)

  • หากอุปกรณ์หรือสายสัญญาณในชุดอุปกรณ์ไม่ตรงตามข้อกำหนดสำหรับคุณภาพที่ต้องการ Netflix จะเล่นด้วยคุณภาพสูงสุดเท่าที่อุปกรณ์ พอร์ต หรือสายสัญญาณรองรับ


ทีวีและอุปกรณ์สตรีมมิงผ่านทีวี

สามารถเปิดหรือปิด HDR ได้ในแอป Netflix บนอุปกรณ์ที่รองรับ HDR ดังนี้

  1. เปิดแอป Netflix แล้วเลือกโปรไฟล์

  2. ในหน้าจอหลักของ Netflix ให้ไปที่ด้านซ้ายเพื่อเปิดเมนู

  3. จากด้านล่าง ให้เลือก ขอความช่วยเหลือ > วิดีโอ

  4. เลือก "เปิด HDR" หรือ "ปิด HDR"

  5. กลับไปรับชม Netflix ต่อ

หมายเหตุ: บางอุปกรณ์อาจตั้งค่าปิด HDR เป็นค่าเริ่มต้น

เนื้อหา Netflix ส่วนใหญ่ (แต่ไม่ทั้งหมด) พร้อมให้รับชมในแบบ HD หรือ 4K ให้ค้นหาคำว่า "HD" หรือ "4K" เพื่อดูรายชื่อเนื้อหา

  • เตือนความจำ: หน้ารายละเอียดของเนื้อหาจะแสดงคุณภาพของวิดีโอ และเสียงของเนื้อหานั้น ซึ่งจะเล่นในอุปกรณ์ของคุณ ภาพยนตร์อาจมีให้รับชมในแบบ 4K แต่ถ้าอุปกรณ์ของคุณรองรับเพียงความละเอียด 1080p รายละเอียดก็จะแสดงเป็น HD แทน 4K และเนื้อหาจะเล่นในความละเอียด 1080p

  • เนื้อหาที่ใช้ทดสอบ:

แม้จะไม่มีการตั้งค่าที่คุณสามารถเลือกความละเอียดได้ แต่จะมีบางการตั้งค่าในบัญชีที่จะส่งผลต่อคุณภาพวิดีโอ การตั้งค่าเริ่มต้นมักจะอยู่ที่ความละเอียดสูงสุด แต่คุณสามารถตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ตั้งค่าไปที่คุณภาพต่ำกว่า ไปที่การตั้งค่าการเล่นในเว็บเบราว์เซอร์สำหรับโปรไฟล์ที่ต้องการใช้รับชม แล้วตรวจสอบว่า ตั้งค่าการใช้ข้อมูลต่อหน้าจอ เป็นคุณภาพที่ต้องการ ดังนี้

  • 4K: สูงหรืออัตโนมัติ

  • 1080P HD: สูงหรืออัตโนมัติ

  • 720p HD: กลางสูง หรืออัตโนมัติ

หมายเหตุ: สำหรับเครือข่ายที่มีการเปลี่ยนแปลงความเร็วในการสตรีม การตั้งค่าอื่นใดนอกเหนือจาก "อัตโนมัติ" อาจบังคับความเร็วให้อยู่ในระดับใดระดับหนึ่ง ซึ่งอาจช่วยเรื่องคุณภาพวิดีโอได้ แต่หากทำให้เกิดการบัฟเฟอร์หรือค้างนิ่ง ให้เปลี่ยนการตั้งค่ากลับไปเป็นอัตโนมัติ

หมายเหตุ: การสตรีมด้วยคุณภาพวิดีโอสูงกว่าจะใช้ข้อมูลมากกว่า และอาจใช้พลังงานมากกว่า ดูวิธีควบคุมปริมาณข้อมูลที่ Netflix ใช้

หากกำลังรับชมในคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์มือถือ คุณอาจต้องตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 2-3 รายการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่บทความสำหรับอุปกรณ์ของคุณ: Windows, Mac, โทรศัพท์/แท็บเล็ต Android, iPhone/iPad

หากทำตามขั้นตอนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคุณภาพวิดีโอตามที่ต้องการ โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์

บทความที่เกี่ยวข้อง