ข้อผิดพลาด Netflix NW-2-5

คุณอาจเห็นข้อความนี้ในทีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิงผ่านทีวี เมื่อพยายามเปิด Netflix

เกิดข้อผิดพลาดขึ้นกับ Netflix ลองอีกครั้งใน [X] วินาที
รหัส: NW-2-5

รหัสข้อผิดพลาด NW-2-5 หมายความว่าอุปกรณ์ใช้เวลาเชื่อมต่อกับ Netflix นานเกินไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ชี้ถึงปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในอุปกรณ์หรือเครือข่ายในบ้าน

ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อแก้ไขปัญหา หากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขหลังจากทำตามขั้นตอนเหล่านี้แล้ว คุณจะต้องติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)

ลองทำตามตัวเลือกเหล่านี้ เพื่อทดสอบการเชื่อมต่อของอุปกรณ์

  • ในหน้าจอข้อผิดพลาด ให้เลือก รายละเอียดเพิ่มเติม > ตรวจสอบเครือข่าย หากเครื่องหมาย X สีแดงปรากฏที่ใดก็ตามบนหน้าจอ แสดงว่าอุปกรณ์อาจไม่มีการเชื่อมต่อ

  • ให้ลองใช้แอปอื่นที่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต หรือทดสอบเครือข่ายจากเมนูการตั้งค่า (ถ้ามี) หากแอปอื่นๆ ใช้ไม่ได้ หรือทดสอบเครือข่ายไม่สำเร็จ เป็นไปได้ว่าอุปกรณ์ของคุณไม่ได้เชื่อมต่อ

หากอุปกรณ์เชื่อมต่ออยู่และยังได้รับข้อผิดพลาดนี้ โปรดอ่านข้อความด้านล่าง เพื่อตรวจสอบประเภทของเครือข่ายที่อาจเป็นสาเหตุ

  • เครือข่าย Wi-Fi สาธารณะหรือที่ใช้ร่วมกัน เช่น ในโรงแรมหรืออพาร์ตเมนต์ อาจมีผู้ใช้หลายคนในเวลาเดียวกัน หรืออาจมีการบล็อกบริการสตรีมมิงวิดีโอ เช่น Netflix ให้ลองติดต่อเจ้าของเครือข่ายหรือผู้ดูแลระบบ เพื่อรับความช่วยเหลือ

  • การเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายมือถือ ดาวเทียม หรือฮอตสปอตมือถือ อาจช้าเกิดไป การสตรีมมิงจึงไม่เสถียร โปรดติดต่อ ISP และสอบถามว่า เครือข่ายของคุณรองรับการสตรีมวิดีโอไหม

หมายเหตุ:เนื่องจากขั้นตอนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรือการแก้ไขปัญหาเครือข่ายจะแตกต่างกันไปในแต่ละอุปกรณ์และเครือข่ายภายในบ้าน ฝ่ายบริการลูกค้าของ Netflix จึงไม่สามารถช่วยเหลือในขั้นตอนต่อไปนี้สำหรับอุปกรณ์ของคุณได้

การรีสตาร์ทอุปกรณ์จะทำให้ Netflix เริ่มต้นใหม่ และแก้ไขข้อผิดพลาดและปัญหาทั่วไปได้

  1. ถอดปลั๊กอุปกรณ์ออก

  2. รออย่างน้อย 15 วินาที หากใช้กล่องสัญญาณเคเบิล ให้รอ 3 นาที

  3. เสียบปลั๊กอุปกรณ์กลับเข้าไป

  4. เปิดอุปกรณ์แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การรีสตาร์ทกล่องสัญญาณเครือข่ายจะทำให้อุปกรณ์ส่งคำขอการเชื่อมต่อใหม่ ล้างข้อมูลเก่า และแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อทั่วไปได้

Resetting modem and device, 30-sec timer, cable unplugged.

  1. ปิดอุปกรณ์ของคุณ แล้วถอดปลั๊กโมเด็มและเราเตอร์

  2. เมื่อผ่านไป 30 วินาที ให้เสียบปลั๊กโมเด็มและเราเตอร์

  3. รอ 1 นาที จากนั้นจึงเปิดอุปกรณ์

  4. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

หมายเหตุ: อุปกรณ์ โมเด็ม และเราเตอร์บางรุ่นอาจใช้เวลานานกว่าในการกลับมาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกครั้ง

ให้ข้ามขั้นตอนนี้ หากการย้ายเราเตอร์ลำบากเกินไปหรือเป็นไปไม่ได้ หรือหากอุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้สายอีเธอร์เน็ต

หากอุปกรณ์ไม่ได้รับสัญญาณ Wi-Fi ที่แรงมากพอจากเราเตอร์ การเชื่อมต่อจะเสถียรน้อยลงและอาจทำให้เกิดปัญหา

ตัวอย่างวิธีปรับปรุงสัญญาณ Wi-Fi

  • ย้ายเราเตอร์ให้อยู่ใกล้กับอุปกรณ์มากขึ้น หรือตำแหน่งตรงกลางครัวเรือน

  • ย้ายเราเตอร์ให้อยู่สูงขึ้นจากพื้น โดยนำไปวางบนโต๊ะหรือชั้น

  • ย้ายเราเตอร์ให้อยู่ห่างจากอุปกรณ์ไร้สายและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่เป็นโลหะ เช่น ตู้เย็นหรือไมโครเวฟ

  • เพิ่มอุปกรณ์ขยายสัญญาณไร้สายในห้องที่คุณใช้อุปกรณ์

  • สอบถาม ISP ว่าสามารถอัปเดตเฟิร์มแวร์ของเราเตอร์ หรืออัปเกรดเป็นรุ่นใหม่ได้ไหม

ขั้นตอนเหล่านี้สำหรับคอนโซลเกม PlayStation และ Xbox หากใช้อุปกรณ์อื่น ให้ข้ามขั้นตอนนี้

หากการตั้งค่า DNS ไม่ถูกต้อง อุปกรณ์อาจไม่สามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ Netflix ได้ ซึ่งทำให้เกิดข้อผิดพลาดการหมดเวลาของเครือข่าย

วิธีเปลี่ยนการตั้งค่า DNS ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้ในคอนโซลที่ใช้

  1. ไปที่เมนูหลัก แล้วเลือก Settings (การตั้งค่า)

  2. เลือก Network (เครือข่าย) > Set Up Internet Connection (ตั้งค่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต)

  3. เลือกประเภทการเชื่อมต่อที่ใช้ ดังนี้

    • สำหรับ Use Wi-Fi (ใช้ Wi-Fi) ให้เลือก Custom (กำหนดเอง), แล้วเลือกเครือข่าย Wi-Fi

    • สำหรับ Use a LAN Cable (ใช้สาย LAN) ให้เลือก Custom (กำหนดเอง) > Operation mode (โหมดปฏิบัติงาน)

  4. เมื่อเข้าสู่การตั้งค่าในขั้นตอนถัดไป ให้เลือกตัวเลือกเหล่านี้

    • IP Address Settings (การตั้งค่าที่อยู่ IP) > Automatic (อัตโนมัติ)

    • DHCP Host (โฮสต์ DHCP) > Don't Specify (ไม่ระบุ)

    • DNS Settings (การตั้งค่า DNS) > Automatic (อัตโนมัติ)

    • Proxy Server (เซิร์ฟเวอร์พร็อกซี) > Don't Use (ไม่ใช้)

    • MTU Settings (การตั้งค่า MTU) > Automatic (อัตโนมัติ)

  5. เลือก Test Connection (ทดสอบการเชื่อมต่อ)

  6. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

  1. จากหน้าจอหลัก ให้เลือก Settings (การตั้งค่า)

  2. เลือก Network Settings (การตั้งค่าเครือข่าย) > Internet Connection Settings (การตั้งค่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต) > OK (ตกลง)

  3. เลือก Custom (กำหนดเอง)

  4. เลือกประเภทการเชื่อมต่อที่ใช้ ดังนี้

    • สำหรับ Wireless (ไร้สาย) ให้เลือกตัวเลือกต่อไปนี้

      • ในหัวข้อ WLAN ให้เลือกคำสั่ง Enter Manually (ป้อนข้อมูลด้วยตัวเอง)

      • เลือก IP Address Setting (การตั้งค่าที่อยู่ IP)

    • สำหรับ Wired Connection (การเชื่อมต่อแบบใช้สาย) ให้เลือก Auto-Detect (ตรวจหาอัตโนมัติ) สำหรับ Operation mode (โหมดปฏิบัติงาน)

  5. เมื่อเข้าสู่การตั้งค่าในขั้นตอนถัดไป ให้เลือกตัวเลือกเหล่านี้

    • IP Address Setting (การตั้งค่าที่อยู่ IP) > Automatic (อัตโนมัติ)

    • DHCP Host (โฮสต์ DHCP) > Do Not Set (ไม่ตั้งค่า)

    • DNS Setting (การตั้งค่า DNS) > Automatic (อัตโนมัติ)

    • Proxy Server (เซิร์ฟเวอร์พร็อกซี) > Do Not Use (ไม่ใช้)

    • MTU > Automatic (อัตโนมัติ)

    • UPnP > Enable (เปิดใช้)

  6. กดปุ่ม X เพื่อบันทึกการตั้งค่า

  7. เลือก Test Connection (ทดสอบการเชื่อมต่อ)

  8. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

  1. กดปุ่ม Xbox เพื่อเปิด Guide (หน้าแนะนำ)

  2. ในเมนู Profile & system (โปรไฟล์และระบบ) ให้เลือก Settings (การตั้งค่า)

  3. เลือก General (ทั่วไป) > Network Settings (การตั้งค่าเครือข่าย) > Advanced Settings (การตั้งค่าขั้นสูง) > DNS Settings (การตั้งค่า DNS)

  4. เลือก "อัตโนมัติ"

  5. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

  1. กดปุ่ม "นำทาง" บนอุปกรณ์ควบคุมของคุณ

  2. ไปที่ Settings (การตั้งค่า) แล้วเลือก System Settings (การตั้งค่าระบบ)

  3. เลือก Network Settings (การตั้งค่าเครือข่าย)

  4. เลือกเครือข่ายที่ใช้งาน แล้วเลือก Configure Network (กำหนดค่าเครือข่าย)

  5. เลือก DNS Settings (การตั้งค่า DNS) แล้วเลือก Automatic (อัตโนมัติ)

  6. ปิด Xbox แล้วเปิดขึ้นใหม่อีกครั้ง

  7. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

หากขั้นตอนดังกล่าวไม่ได้ผล ให้ติดต่อ ISP เพื่อรับความช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหา DNS

ปัญหานี้อาจเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ระบบชื่อโดเมน (DNS) ที่อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่ออยู่ หากต้องการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ DNS คุณต้องติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)

ระหว่างพูดคุย ให้แจ้งข้อมูลกับ ISP ดังต่อไปนี้

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์สามารถเชื่อมต่อกับที่อยู่ Netflix ต่อไปนี้ได้

    • secure.netflix.com

    • appboot.netflix.com

    • uiboot.netflix.com

    • fast.com

  • ตรวจสอบปัญหา DNS ในโมเด็มหรือเราเตอร์ อุปกรณ์ของคุณ หรือเซิร์ฟเวอร์ DNS

  • ลองใช้เซิร์ฟเวอร์ DNS อื่นเพื่อตรวจสอบว่าแก้ปัญหาได้ไหม

ก่อนสิ้นสุดการพูดคุยกับ ISP เราขอแนะนำให้ลองใช้ Netflix อีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าแก้ไขปัญหาได้แล้ว

หากขั้นตอนดังกล่าวไม่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย

ISP สามารถดำเนินการต่อไปนี้ได้

  • ตรวจสอบสภาพขัดข้องของอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ของคุณ

  • แก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับเราเตอร์หรือโมเด็ม และการตั้งค่าเครือข่ายที่ไม่ถูกต้อง

  • รีสตาร์ทหรือรีเซ็ตการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ

ระหว่างพูดคุย ให้แจ้งข้อมูลกับ ISP ดังต่อไปนี้

  • ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะในอุปกรณ์เครื่องเดียว หรืออุปกรณ์อื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน

  • อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้ Wi-Fi หรือใช้สายต่อโดยตรง

ก่อนจบการพูดคุยกับ ISP ให้ดำเนินการดังนี้

  • ไปที่ fast.com โดยใช้เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อทดสอบความเร็วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับ Netflix โดยตรง

  • ลองเล่นเนื้อหาใน Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่

บทความที่เกี่ยวข้อง