ข้อผิดพลาด NW-4-7 ของ Netflix
คุณอาจได้รับรหัสข้อผิดพลาด NW-4-7 ที่มีข้อความต่อไปนี้
ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ Netflix ได้ โปรดลองอีกครั้ง หรือรีสตาร์ทเครือข่ายภายในบ้านและอุปกรณ์ที่ใช้สตรีม
ข้อผิดพลาดจะเกิดขึ้น เมื่อปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลในอุปกรณ์ หรือการเชื่อมต่อเครือข่ายทำให้ Netflix หยุดทำงาน หรือในกรณีที่อุปกรณ์ของคุณไม่รองรับอีกต่อไป
โปรดทำตามขั้นตอนสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งาน เพื่อแก้ไขปัญหา
อาจไม่สามารถใช้งาน Netflix ในทีวี กล่องรับสัญญาณ และอุปกรณ์สตรีมมิงรุ่นเก่าได้อีกต่อไป เนื่องจากไม่สามารถอัปเดตแอป Netflix หรือซอฟต์แวร์ในอุปกรณ์ดังกล่าวให้เป็นเวอร์ชันที่รับรอง
วิธีตรวจสอบแอป Netflix เวอร์ชันที่ไม่รองรับแล้วในอุปกรณ์
ในหน้าจอแสดงข้อผิดพลาด ให้เลือก รายละเอียดเพิ่มเติม
เลือก อุปกรณ์
ในส่วน เวอร์ชัน SDK หรือเวอร์ชันแพลตฟอร์ม ให้ตรวจดูหมายเลขเวอร์ชันดังนี้
หากเวอร์ชันอุปกรณ์เป็น 4.1.3 ขึ้นไป
ตรวจสอบการอัปเดตเฟิร์มแวร์สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งาน อุปกรณ์ที่ใช้งานอาจมีอัปเดตในเวอร์ชันที่ใหม่กว่าเดิมสำหรับแอปหรือซอฟต์แวร์ที่ใช้ในอุปกรณ์ หากต้องการความช่วยเหลือในการอัปเดตเฟิร์มแวร์ โปรดดูคู่มือที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ หรือติดต่อบริษัทผู้ผลิต
ติดต่อบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ ตรวจสอบกับบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ เพื่อตรวจดูกำหนดการในการอัปเดตแอป Netflix ในอุปกรณ์ อาจต้องใช้อุปกรณ์อื่นดู Netflix ไปก่อน จนกว่าจะถึงเวลาดังกล่าว
หากเวอร์ชันอุปกรณ์เป็น 4.1.2 หรือต่ำกว่านั้น ระบบของเราไม่รองรับแอป Netflix หรือซอฟต์แวร์ในอุปกรณ์ดังกล่าวแล้ว หากต้องการดูต่อ คุณจะต้องใช้อุปกรณ์อื่นที่รองรับการใช้งาน Netflix
ใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือแท็บเล็ต เชื่อมต่อกับเครือข่ายหรือ Wi-Fi เดียวกับอุปกรณ์ที่มีปัญหา
เปิดเว็บเบราว์เซอร์แล้วไปที่ netflix.com/clearcookies
คลิก "เข้าสู่ระบบ" จากด้านขวาบน
เข้าสู่ระบบบัญชี Netflix ของคุณ
หากได้รับข้อผิดพลาด NSEZ-403 หมายความว่าเราไม่สามารถเชื่อมต่อบัญชีของคุณกับ Netflix ได้ในขณะนี้ ลองใหม่ภายหลัง
หากไม่ได้รับข้อผิดพลาด ให้ดำเนินการต่อในขั้นตอนถัดไป
ปิดอุปกรณ์ของคุณ แล้วถอดปลั๊กโมเด็มและเราเตอร์
เมื่อผ่านไป 30 วินาที ให้เสียบปลั๊กโมเด็มและเราเตอร์
รอ 1 นาที จากนั้นจึงเปิดอุปกรณ์
ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หมายเหตุ: อุปกรณ์ โมเด็ม และเราเตอร์บางรุ่นอาจใช้เวลานานกว่าในการกลับมาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกครั้ง
ไปที่หน้าจอหลักของ Netflix จากนั้นไปทางด้านซ้ายเพื่อเปิดเมนู
จากด้านล่าง ให้เลือกขอความช่วยเหลือ > ออกจากระบบ > ใช่
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากอุปกรณ์อยู่ในหน้าจอข้อผิดพลาด ให้ทำดังนี้
เลือก "รายละเอียดเพิ่มเติม"
เลือก "ออกจากระบบ" หรือ "รีเซ็ต"
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หาไม่พบตัวเลือก รับความช่วยเหลือ หรือ ออกจากระบบ ให้ทำดังนี้
กดปุ่มต่อไปนี้บนรีโมทตามลำดับดังนี้ ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น
เลือก ออกจากระบบรีเซ็ต หรือ ปิดใช้งาน จากเมนูที่ปรากฏ
เพื่อให้รับสัญญาณได้ดีขึ้น คุณสามารถดำเนินการได้ดังนี้
ย้ายเราเตอร์และอุปกรณ์ที่ใช้งานให้อยู่ใกล้กันมากขึ้น หากเป็นไปได้ ให้อยู่ในห้องเดียวกัน
ย้ายเราเตอร์ให้อยู่ห่างจากอุปกรณ์ไร้สายและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ
วางเราเตอร์ให้อยู่สูงจากพื้นในพื้นที่เปิดโล่ง เราเตอร์จะรับสัญญาณได้ดีขึ้นเมื่ออยู่บนโต๊ะหรือชั้นหนังสือ
หากขั้นตอนดังกล่าวไม่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย
ISP สามารถดำเนินการต่อไปนี้ได้
ตรวจสอบสภาพขัดข้องของอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ของคุณ
แก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับเราเตอร์หรือโมเด็ม และการตั้งค่าเครือข่ายที่ไม่ถูกต้อง
รีสตาร์ทหรือรีเซ็ตการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ
ระหว่างพูดคุย ให้แจ้งข้อมูลกับ ISP ดังต่อไปนี้
ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะในอุปกรณ์เครื่องเดียว หรืออุปกรณ์อื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน
อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้ Wi-Fi หรือใช้สายต่อโดยตรง
ก่อนจบการพูดคุยกับ ISP ให้ดำเนินการดังนี้
ไปที่ fast.com โดยใช้เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อทดสอบความเร็วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับ Netflix โดยตรง
ลองเล่นเนื้อหาใน Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่
เครือข่ายสาธารณะ:
สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่
เครือข่ายส่วนตัว:
ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ
การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix
จากหน้าจอหลัก ให้เลือก Settings (การตั้งค่า)
เลือก Network Settings (การตั้งค่าเครือข่าย) > Internet Connection Settings (การตั้งค่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต) > OK (ตกลง)
เลือก Custom (กำหนดเอง)
เลือกประเภทการเชื่อมต่อที่ใช้ ดังนี้
สำหรับ Wireless (ไร้สาย) ให้เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
ในหัวข้อ WLAN ให้เลือกคำสั่ง Enter Manually (ป้อนข้อมูลด้วยตัวเอง)
เลือก IP Address Setting (การตั้งค่าที่อยู่ IP)
สำหรับ Wired Connection (การเชื่อมต่อแบบใช้สาย) ให้เลือก Auto-Detect (ตรวจหาอัตโนมัติ) สำหรับ Operation mode (โหมดปฏิบัติงาน)
เมื่อเข้าสู่การตั้งค่าในขั้นตอนถัดไป ให้เลือกตัวเลือกเหล่านี้
IP Address Setting (การตั้งค่าที่อยู่ IP) > Automatic (อัตโนมัติ)
DHCP Host (โฮสต์ DHCP) > Do Not Set (ไม่ตั้งค่า)
DNS Setting (การตั้งค่า DNS) > Automatic (อัตโนมัติ)
Proxy Server (เซิร์ฟเวอร์พร็อกซี) > Do Not Use (ไม่ใช้)
MTU > Automatic (อัตโนมัติ)
UPnP > Enable (เปิดใช้)
กดปุ่ม X เพื่อบันทึกการตั้งค่า
เลือก Test Connection (ทดสอบการเชื่อมต่อ)
ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
ปิดหรือถอดปลั๊กคอนโซลเครื่องเล่นวิดีโอเกม
ถอดปลั๊กโมเด็ม (และเราเตอร์ไร้สาย หากเป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหาก) ออกจากช่องเสียบปลั๊กไฟเป็นเวลา 30 วินาที
เสียบปลั๊กโมเด็มของคุณและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ หากเราเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหากจากโมเด็ม ให้เสียบปลั๊กและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ
เปิดคอนโซลเกมขึ้นใหม่แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากขั้นตอนดังกล่าวไม่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย
ISP สามารถดำเนินการต่อไปนี้ได้
ตรวจสอบสภาพขัดข้องของอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ของคุณ
แก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับเราเตอร์หรือโมเด็ม และการตั้งค่าเครือข่ายที่ไม่ถูกต้อง
รีสตาร์ทหรือรีเซ็ตการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ
ระหว่างพูดคุย ให้แจ้งข้อมูลกับ ISP ดังต่อไปนี้
ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะในอุปกรณ์เครื่องเดียว หรืออุปกรณ์อื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน
อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้ Wi-Fi หรือใช้สายต่อโดยตรง
ก่อนจบการพูดคุยกับ ISP ให้ดำเนินการดังนี้
ไปที่ fast.com โดยใช้เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อทดสอบความเร็วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับ Netflix โดยตรง
ลองเล่นเนื้อหาใน Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่
เครือข่ายสาธารณะ:
สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่
เครือข่ายส่วนตัว:
ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ
การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix
ไปที่เมนูหลัก แล้วเลือก Settings (การตั้งค่า)
เลือก Network (เครือข่าย) > Set Up Internet Connection (ตั้งค่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต)
เลือกประเภทการเชื่อมต่อที่ใช้ ดังนี้
สำหรับ Use Wi-Fi (ใช้ Wi-Fi) ให้เลือก Custom (กำหนดเอง), แล้วเลือกเครือข่าย Wi-Fi
สำหรับ Use a LAN Cable (ใช้สาย LAN) ให้เลือก Custom (กำหนดเอง) > Operation mode (โหมดปฏิบัติงาน)
เมื่อเข้าสู่การตั้งค่าในขั้นตอนถัดไป ให้เลือกตัวเลือกเหล่านี้
IP Address Settings (การตั้งค่าที่อยู่ IP) > Automatic (อัตโนมัติ)
DHCP Host (โฮสต์ DHCP) > Don't Specify (ไม่ระบุ)
DNS Settings (การตั้งค่า DNS) > Automatic (อัตโนมัติ)
Proxy Server (เซิร์ฟเวอร์พร็อกซี) > Don't Use (ไม่ใช้)
MTU Settings (การตั้งค่า MTU) > Automatic (อัตโนมัติ)
เลือก Test Connection (ทดสอบการเชื่อมต่อ)
ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
ปิดหรือถอดปลั๊กคอนโซลเครื่องเล่นวิดีโอเกม
ถอดปลั๊กโมเด็ม (และเราเตอร์ไร้สาย หากเป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหาก) ออกจากช่องเสียบปลั๊กไฟเป็นเวลา 30 วินาที
เสียบปลั๊กโมเด็มของคุณและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ หากเราเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหากจากโมเด็ม ให้เสียบปลั๊กและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ
เปิดคอนโซลเกมขึ้นใหม่แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากขั้นตอนดังกล่าวไม่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย
ISP สามารถดำเนินการต่อไปนี้ได้
ตรวจสอบสภาพขัดข้องของอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ของคุณ
แก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับเราเตอร์หรือโมเด็ม และการตั้งค่าเครือข่ายที่ไม่ถูกต้อง
รีสตาร์ทหรือรีเซ็ตการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ
ระหว่างพูดคุย ให้แจ้งข้อมูลกับ ISP ดังต่อไปนี้
ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะในอุปกรณ์เครื่องเดียว หรืออุปกรณ์อื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน
อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้ Wi-Fi หรือใช้สายต่อโดยตรง
ก่อนจบการพูดคุยกับ ISP ให้ดำเนินการดังนี้
ไปที่ fast.com โดยใช้เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อทดสอบความเร็วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับ Netflix โดยตรง
ลองเล่นเนื้อหาใน Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่
เครือข่ายสาธารณะ:
สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่
เครือข่ายส่วนตัว:
ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ
การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix
จากหน้าจอหลัก ให้ไปที่ Settings (การตั้งค่า)
เลือก Network (เครือข่าย) > Settings (การตั้งค่า) > Set Up Internet Connection (ตั้งค่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต)
เลือกประเภทการเชื่อมต่อที่ใช้ ดังนี้
สำหรับการเชื่อมต่อไร้สาย ให้เลือกชื่อเครือข่าย Wi-Fi > Advanced Settings (การตั้งค่าขั้นสูง)
สำหรับการเชื่อมต่อแบบใช้สาย ให้เลือก Wired LAN (LAN แบบใช้สาย) > Advanced Settings (การตั้งค่าขั้นสูง)
เมื่อเข้าสู่การตั้งค่าในขั้นตอนถัดไป ให้เลือกตัวเลือกเหล่านี้
IP Address Settings (การตั้งค่าที่อยู่ IP) > Automatic (อัตโนมัติ)
DHCP Host (โฮสต์ DHCP) > Don't Specify (ไม่ระบุ)
DNS Settings (การตั้งค่า DNS) > Automatic (อัตโนมัติ)
Proxy Server (เซิร์ฟเวอร์พร็อกซี) > Don't Use (ไม่ใช้)
MTU Settings (การตั้งค่า MTU) > Automatic (อัตโนมัติ)
เลือก OK (ตกลง) เพื่อทดสอบการเชื่อมต่อ
ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
ปิดอุปกรณ์ของคุณ แล้วถอดปลั๊กโมเด็มและเราเตอร์
เมื่อผ่านไป 30 วินาที ให้เสียบปลั๊กโมเด็มและเราเตอร์
รอ 1 นาที จากนั้นจึงเปิดอุปกรณ์
ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หมายเหตุ: อุปกรณ์ โมเด็ม และเราเตอร์บางรุ่นอาจใช้เวลานานกว่าในการกลับมาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกครั้ง
เรากำลังตรวจสอบปัญหานี้ เพื่อช่วยเราค้นหาสาเหตุ โปรดติดต่อเรา
เครือข่ายสาธารณะ:
สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่
เครือข่ายส่วนตัว:
ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ
การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix
กดปุ่ม "นำทาง" บนอุปกรณ์ควบคุมของคุณ
ไปที่ Settings (การตั้งค่า) แล้วเลือก System Settings (การตั้งค่าระบบ)
เลือก Network Settings (การตั้งค่าเครือข่าย)
เลือกเครือข่ายที่ใช้งาน แล้วเลือก Configure Network (กำหนดค่าเครือข่าย)
เลือก DNS Settings (การตั้งค่า DNS) แล้วเลือก Automatic (อัตโนมัติ)
ปิด Xbox แล้วเปิดขึ้นใหม่อีกครั้ง
ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
ปิดหรือถอดปลั๊กคอนโซลเครื่องเล่นวิดีโอเกม
ถอดปลั๊กโมเด็ม (และเราเตอร์ไร้สาย หากเป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหาก) ออกจากช่องเสียบปลั๊กไฟเป็นเวลา 30 วินาที
เสียบปลั๊กโมเด็มของคุณและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ หากเราเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหากจากโมเด็ม ให้เสียบปลั๊กและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ
เปิดคอนโซลเกมขึ้นใหม่แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากขั้นตอนดังกล่าวไม่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย
ISP สามารถดำเนินการต่อไปนี้ได้
ตรวจสอบสภาพขัดข้องของอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ของคุณ
แก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับเราเตอร์หรือโมเด็ม และการตั้งค่าเครือข่ายที่ไม่ถูกต้อง
รีสตาร์ทหรือรีเซ็ตการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ
ระหว่างพูดคุย ให้แจ้งข้อมูลกับ ISP ดังต่อไปนี้
ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะในอุปกรณ์เครื่องเดียว หรืออุปกรณ์อื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน
อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้ Wi-Fi หรือใช้สายต่อโดยตรง
ก่อนจบการพูดคุยกับ ISP ให้ดำเนินการดังนี้
ไปที่ fast.com โดยใช้เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อทดสอบความเร็วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับ Netflix โดยตรง
ลองเล่นเนื้อหาใน Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่
เครือข่ายสาธารณะ:
สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่
เครือข่ายส่วนตัว:
ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ
การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix
กดปุ่ม Xbox เพื่อเปิด Guide (หน้าแนะนำ)
ในเมนู Profile & system (โปรไฟล์และระบบ) ให้เลือก Settings (การตั้งค่า)
เลือก General (ทั่วไป) > Network Settings (การตั้งค่าเครือข่าย) > Advanced Settings (การตั้งค่าขั้นสูง) > DNS Settings (การตั้งค่า DNS)
เลือก "อัตโนมัติ"
ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
ปิดหรือถอดปลั๊กคอนโซลเครื่องเล่นวิดีโอเกม
ถอดปลั๊กโมเด็ม (และเราเตอร์ไร้สาย หากเป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหาก) ออกจากช่องเสียบปลั๊กไฟเป็นเวลา 30 วินาที
เสียบปลั๊กโมเด็มของคุณและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ หากเราเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหากจากโมเด็ม ให้เสียบปลั๊กและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ
เปิดคอนโซลเกมขึ้นใหม่แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากขั้นตอนดังกล่าวไม่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย
ISP สามารถดำเนินการต่อไปนี้ได้
ตรวจสอบสภาพขัดข้องของอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ของคุณ
แก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับเราเตอร์หรือโมเด็ม และการตั้งค่าเครือข่ายที่ไม่ถูกต้อง
รีสตาร์ทหรือรีเซ็ตการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ
ระหว่างพูดคุย ให้แจ้งข้อมูลกับ ISP ดังต่อไปนี้
ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะในอุปกรณ์เครื่องเดียว หรืออุปกรณ์อื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน
อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้ Wi-Fi หรือใช้สายต่อโดยตรง
ก่อนจบการพูดคุยกับ ISP ให้ดำเนินการดังนี้
ไปที่ fast.com โดยใช้เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อทดสอบความเร็วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับ Netflix โดยตรง
ลองเล่นเนื้อหาใน Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่
เครือข่ายสาธารณะ:
สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่
เครือข่ายส่วนตัว:
ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ
การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix
กดปุ่ม Xbox เพื่อเปิด Guide (หน้าแนะนำ)
ในเมนู Profile & system (โปรไฟล์และระบบ) ให้เลือก Settings (การตั้งค่า)
เลือก General (ทั่วไป) > Network Settings (การตั้งค่าเครือข่าย) > Advanced Settings (การตั้งค่าขั้นสูง) > DNS Settings (การตั้งค่า DNS)
เลือก "อัตโนมัติ"
ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
ปิดอุปกรณ์ของคุณ แล้วถอดปลั๊กโมเด็มและเราเตอร์
เมื่อผ่านไป 30 วินาที ให้เสียบปลั๊กโมเด็มและเราเตอร์
รอ 1 นาที จากนั้นจึงเปิดอุปกรณ์
ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หมายเหตุ: อุปกรณ์ โมเด็ม และเราเตอร์บางรุ่นอาจใช้เวลานานกว่าในการกลับมาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกครั้ง