รายการทีวีหรือภาพยนตร์โหลดช้าหรือบัฟเฟอร์อยู่ตลอดเวลา

หากรายการทีวีหรือภาพยนตร์โหลดช้าหรือมีการบัฟเฟอร์หรือบัฟเฟอร์ซ้ำ อาจเกิดจากสัญญาณการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอ่อนหรือไม่คงที่

วิธีแก้ไขปัญหา

ตรวจสอบเครือข่ายว่าสามารถเล่น Netflix ได้หรือไม่

เครือข่ายสาธารณะ:

สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่

เครือข่ายส่วนตัว:

ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ

การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix


การตรวจสอบความเร็วการเชื่อมต่อ

หากต้องการตรวจสอบความเร็วการเชื่อมต่อผ่านแอป Netflix ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้

หมายเหตุ:
หากกำลังใช้งานอุปกรณ์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ โปรดไปที่ Fast.com เพื่อทดสอบความเร็ว
  1. เริ่มต้นจากหน้าจอหลักของ Netflix

  2. เลื่อนไปทางซ้ายเพื่อเปิดเมนู จากนั้นเลือก "การตั้งค่า"

    • หากไม่เห็นเมนูเมื่อเลื่อนไปทางซ้าย ให้เลื่อนไปด้านบนแล้วเลือก "การตั้งค่า" หรือไอคอน "การตั้งค่า" หากยังไม่พบไอคอน "การตั้งค่า" แสดงว่าอุปกรณ์ของคุณไม่มีคุณสมบัตินี้

  3. เลือก "ขอความช่วยเหลือ"

  4. เลือก "ตรวจสอบเครือข่าย"

  5. แอป Netflix จะตรวจสอบว่าคุณสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และสามารถเข้าถึง Netflix นอกจากนี้แอปจะตรวจสอบความเร็วการเชื่อมต่อให้ด้วย

  6. เมื่อทดสอบเสร็จแล้ว โปรดตรวจให้มั่นใจว่าความเร็วของคุณสอดคล้องกับความเร็วอินเทอร์เน็ตที่แนะนำของ Netflix

การรีสตาร์ทอุปกรณ์

  1. ถอดปลั๊กอุปกรณ์ออก

  2. กดปุ่มเปิด/ปิดบนอุปกรณ์หนึ่งครั้ง แล้วรอ 1 นาที หรือถอดปลั๊กทิ้งไว้ 3 นาที

  3. เสียบปลั๊กอุปกรณ์กลับเข้าไป

  4. เปิดอุปกรณ์แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การออกจากระบบของ Netflix

  1. ไปที่หน้าจอหลักของ Netflix จากนั้นไปทางด้านซ้ายเพื่อเปิดเมนู

  2. ไปที่ด้านล่างของเมนู จากนั้นไปทางด้านขวา แล้วเลือกรับความช่วยเหลือ

  3. เลือก "ออกจากระบบ"

  4. ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

หากอุปกรณ์อยู่ในหน้าจอข้อผิดพลาด ให้ทำดังนี้

  1. เลือก "รายละเอียดเพิ่มเติม"

  2. เลือก "ออกจากระบบ" หรือ "รีเซ็ต"

  3. ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

หาไม่พบตัวเลือก รับความช่วยเหลือ หรือ ออกจากระบบ ให้ทำดังนี้

  1. กดปุ่มต่อไปนี้บนรีโมทตามลำดับดังนี้ ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น

  2. เลือก ออกจากระบบ รีเซ็ต หรือ ปิดใช้งาน จากเมนูที่ปรากฏ

การรีสตาร์ทเครือข่ายภายในบ้าน

  1. ปิดหรือถอดปลั๊กสมาร์ททีวี

  2. ถอดปลั๊กโมเด็ม (และเราเตอร์ไร้สาย หากเป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหาก) ออกจากช่องเสียบปลั๊กไฟเป็นเวลา 30 วินาที

  3. เสียบปลั๊กโมเด็มของคุณและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ หากเราเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหากจากโมเด็ม ให้เสียบปลั๊กและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ

  4. เปิดสมาร์ททีวีขึ้นใหม่ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การปรับปรุงสัญญาณ Wi-Fi

วิธีปรับปรุงสัญญาณ Wi-Fi

  • ย้ายเราเตอร์และอุปกรณ์ที่ใช้งานให้อยู่ใกล้กันมากขึ้น หากเป็นไปได้ ให้อยู่ในห้องเดียวกัน

  • ย้ายเราเตอร์ให้อยู่ห่างจากอุปกรณ์ไร้สายและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ

  • วางเราเตอร์ให้อยู่สูงจากพื้นในพื้นที่เปิดโล่ง เราเตอร์จะรับสัญญาณได้ดีขึ้นเมื่ออยู่บนโต๊ะหรือชั้นหนังสือ

การติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

หากขั้นตอนดังกล่าวไม่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย

ISP สามารถดำเนินการต่อไปนี้ได้

  • ตรวจสอบสภาพขัดข้องของอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ของคุณ

  • แก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับเราเตอร์หรือโมเด็ม และการตั้งค่าเครือข่ายที่ไม่ถูกต้อง

  • รีสตาร์ทหรือรีเซ็ตการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ

ระหว่างพูดคุย ให้แจ้งข้อมูลกับ ISP ดังต่อไปนี้

  • ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะในอุปกรณ์เครื่องเดียว หรืออุปกรณ์อื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน

  • อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้ Wi-Fi หรือใช้สายต่อโดยตรง

ก่อนจบการพูดคุยกับ ISP ให้ดำเนินการดังนี้

  • ไปที่ fast.com โดยใช้เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อทดสอบความเร็วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับ Netflix โดยตรง

  • ลองเล่นเนื้อหาใน Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่

บทความที่เกี่ยวข้อง