ข้อผิดพลาด Netflix M7702-1003

1. พิมพ์หรือคัดลอกแล้ววาง chrome://settings/content/protectedContent ลงในแถบที่อยู่ จากนั้นกด "เอ็นเทอร์" หรือ "ย้อนกลับ"

2. เปิดใช้ตัวเลือก "ไซต์สามารถเล่นเนื้อหาที่มีการปกป้องได้" แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

หรือ

1. คลิก "เพิ่มเติม" ที่มุมขวาบนของเบราว์เซอร์

2. คลิก "การตั้งค่า" > "ความเป็นส่วนตัวและการรักษาความปลอดภัย" > "การตั้งค่าเว็บไซต์"

3. ในส่วน "เนื้อหา" คลิก "การตั้งค่าเนื้อหาเพิ่มเติม" > "ID เนื้อหาที่มีการปกป้อง"

4. เปิดใช้ตัวเลือก "ไซต์สามารถเล่นเนื้อหาที่มีการปกป้องได้" แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

1. คลิก "เพิ่มเติม" ที่มุมขวาบนของเบราว์เซอร์

2. คลิก "ความช่วยเหลือ" > "เกี่ยวกับ Google Chrome"

3. รอให้ Chrome ตรวจสอบการอัปเดตใหม่โดยอัตโนมัติ

4. หากมีอัปเดตที่พร้อมใช้งาน ให้คลิก "เปิดใหม่"

5. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

1. พิมพ์หรือคัดลอกแล้ววาง chrome://components ลงในแถบที่อยู่ของเบราว์เซอร์ จากนั้นกด Enter หรือ Return

2. ค้นหา Widevine Content Decryption Module (โมดูลการถอดรหัสเนื้อหาของ Widevine) จากรายการแล้วคลิก Check for update (ตรวจสอบการอัปเดต) หากเบราว์เซอร์ที่ใช้ไม่มีตัวเลือกนี้ ให้ดาวน์โหลด Chrome เวอร์ชันล่าสุดจาก Google

หากเบราว์เซอร์แสดง Status - Component updated (สถานะ - อัปเดตส่วนประกอบแล้ว)ให้รีสตาร์ท Chrome แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

หากเบราว์เซอร์แสดง Status - Component not updated (สถานะ - ส่วนประกอบไม่ได้อัปเดต) หมายความว่าส่วนประกอบเป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว

1. ทำตามขั้นตอนของ Google เพื่อถอนการติดตั้ง Chrome จากคอมพิวเตอร์

2. ใช้เบราว์เซอร์อื่นแล้วทำตามขั้นตอนเพื่อติดตั้ง Google Chrome เวอร์ชันล่าสุด

3. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

หากทำตามขั้นตอนข้างต้นแล้วยังพบข้อผิดพลาดนี้ หมายความว่าซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสหรือการรักษาความปลอดภัยไฟร์วอลล์อาจกำลังขัดขวางการอัปเดตฟีเจอร์ป้องกันเนื้อหาของ Chrome ติดต่อผู้ผลิตซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยหรือผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีเพื่อรับความช่วยเหลือเพิ่มเติม หรือใช้เบราว์เซอร์อื่นเพื่อรับชม Netflix