ข้อผิดพลาด Netflix รหัส NW-1-19

อุปกรณ์ของคุณอาจไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเชื่อมต่อของคุณใช้งานได้

ข้อผิดพลาดนี้เกิดขึ้น เมื่อปัญหาของเครือข่ายทำให้อุปกรณ์เชื่อมต่อบริการ Netflix ไม่ได้

โปรดทำตามขั้นตอนสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งาน เพื่อแก้ไขปัญหา

ทีวีและอุปกรณ์สตรีมมิง

สมาร์ททีวี

ตรวจสอบเครือข่ายว่าสามารถเล่น Netflix ได้หรือไม่

เครือข่ายสาธารณะ:

สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่

เครือข่ายส่วนตัว:

ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ

การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix


การตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

คุณสามารถทดสอบการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ได้โดยลองใช้แอปอื่นที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต บางอุปกรณ์สามารถทดสอบเครือข่ายได้ในการตั้งค่า

หากแอปอื่นๆ ใช้ไม่ได้ หรือได้รับข้อผิดพลาดของเครือข่าย โดยทั่วไปหมายความว่าอุปกรณ์ของคุณไม่ได้เชื่อมต่อ

หมายเหตุ:
เนื่องจากขั้นตอนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรือการแก้ไขปัญหาเครือข่ายจะแตกต่างกันไปในแต่ละอุปกรณ์ ฝ่ายบริการลูกค้าของ Netflix จึงไม่สามารถช่วยเหลือในขั้นตอนต่อไปนี้สำหรับอุปกรณ์ของคุณได้

หากต้องการดูขั้นตอนการเชื่อมต่อสำหรับอุปกรณ์ของคุณ

  • ตรวจสอบคำแนะนำหรือคู่มือที่มาพร้อมกับอุปกรณ์

  • ติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อขอรับความช่วยเหลือในการเชื่อมต่ออุปกรณ์กับอินเทอร์เน็ต

หากอุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่ออยู่ และยังพบปัญหานี้ ให้ดำเนินการขั้นตอนถัดไป

การรีสตาร์ทอุปกรณ์

  1. ถอดปลั๊กอุปกรณ์ออก

  2. กดปุ่มเปิด/ปิดบนอุปกรณ์หนึ่งครั้ง แล้วรอ 1 นาที หรือถอดปลั๊กทิ้งไว้ 3 นาที

  3. เสียบปลั๊กอุปกรณ์กลับเข้าไป

  4. เปิดอุปกรณ์แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การรีสตาร์ทเครือข่ายภายในบ้าน

  1. ปิดหรือถอดปลั๊กสมาร์ททีวี

  2. ถอดปลั๊กโมเด็ม (และเราเตอร์ไร้สาย หากเป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหาก) ออกจากช่องเสียบปลั๊กไฟเป็นเวลา 30 วินาที

  3. เสียบปลั๊กโมเด็มของคุณและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ หากเราเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหากจากโมเด็ม ให้เสียบปลั๊กและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ

  4. เปิดสมาร์ททีวีขึ้นใหม่ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การคืนค่าการตั้งค่าเริ่มต้นในการเชื่อมต่อ

หากมีการเปลี่ยนการตั้งค่าการเชื่อมต่อในอุปกรณ์ คุณต้องเปลี่ยนกลับเป็นค่าเริ่มต้น

การตั้งค่าเหล่านี้ได้แก่

  • การตั้งค่าโมเด็มที่กำหนดเอง

  • การตั้งค่า Virtual Private Network (VPN - เครือข่ายเสมือนส่วนบุคคล) หรือบริการพร็อกซี

  • การตั้งค่า DNS ที่กำหนดเอง

หากต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการแก้ไขการตั้งค่าเหล่านี้ โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์ของคุณ

เมื่อรีเซ็ตการตั้งค่าเหล่านี้แล้ว ให้ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การปรับปรุงสัญญาณ Wi-Fi

วิธีปรับปรุงสัญญาณ Wi-Fi

  • ย้ายเราเตอร์และอุปกรณ์ที่ใช้งานให้อยู่ใกล้กันมากขึ้น หากเป็นไปได้ ให้อยู่ในห้องเดียวกัน

  • ย้ายเราเตอร์ให้อยู่ห่างจากอุปกรณ์ไร้สายและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ

  • วางเราเตอร์ให้อยู่สูงจากพื้นในพื้นที่เปิดโล่ง เราเตอร์จะรับสัญญาณได้ดีขึ้นเมื่ออยู่บนโต๊ะหรือชั้นหนังสือ

การติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

หากขั้นตอนดังกล่าวไม่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย

ISP สามารถดำเนินการต่อไปนี้ได้

  • ตรวจสอบสภาพขัดข้องของอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ของคุณ

  • แก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับเราเตอร์หรือโมเด็ม และการตั้งค่าเครือข่ายที่ไม่ถูกต้อง

  • รีสตาร์ทหรือรีเซ็ตการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ

ระหว่างพูดคุย ให้แจ้งข้อมูลกับ ISP ดังต่อไปนี้

  • ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะในอุปกรณ์เครื่องเดียว หรืออุปกรณ์อื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน

  • อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้ Wi-Fi หรือใช้สายต่อโดยตรง

ก่อนจบการพูดคุยกับ ISP ให้ดำเนินการดังนี้

  • ไปที่ fast.com โดยใช้เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อทดสอบความเร็วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับ Netflix โดยตรง

  • ลองเล่นเนื้อหาใน Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่

Roku TV/Stick

การทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

เพื่อให้แน่ใจว่าการเชื่อมต่อ Roku กับอินเทอร์เน็ตทำงานอย่างเหมาะสม ทำตามขั้นตอนสำหรับรุ่นของ Roku ที่คุณใช้อยู่ด้านล่าง

Roku 1

  1. จากหน้าหลักของ Roku เลือก "การตั้งค่า"

  2. เลือก "เครือข่าย"

หากสถานะการเชื่อมต่อระบุว่า ไม่สามารถเชื่อมต่อได้ โปรดไปที่ไซต์การสนับสนุนของ Roku สำหรับความช่วยเหลือเพิ่มเติม


Roku 2 และอุปกรณ์สตรีมมิง MHL แบบแท่ง

  1. จากหน้าหลักของ Roku เลือก "การตั้งค่า"

  2. เลือก "เครือข่าย"

  3. เลือก "สถานะการเชื่อมต่อ"

หากสถานะการเชื่อมต่อระบุว่า ไม่สามารถเชื่อมต่อได้ โปรดไปที่ไซต์การสนับสนุนของ Roku สำหรับความช่วยเหลือเพิ่มเติม


Roku 3 และอุปกรณ์สตรีมมิง HDMI แบบแท่ง

  1. จากหน้าหลักของ Roku เลือก "การตั้งค่า"

  2. เลือก "เครือข่าย"

  3. เลือกการเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีเครื่องหมายถูกอยู่ถัดจากการเชื่อมต่อดังกล่าว

  4. ยืนยันสถานะการเชื่อมต่อเครือข่ายด้วยข้อมูลที่แสดงอยู่ด้านขวาของหน้าจอ

หากสถานะการเชื่อมต่อระบุว่าไม่สามารถเชื่อมต่อได้ โปรดไปที่ไซต์การสนับสนุนของ Roku สำหรับความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ตรวจสอบเครือข่ายว่าสามารถเล่น Netflix ได้หรือไม่

เครือข่ายสาธารณะ:

สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่

เครือข่ายส่วนตัว:

ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ

การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix


การรีสตาร์ทอุปกรณ์

  1. ปิดอุปกรณ์ของคุณ ถอดปลั๊ก หากอุปกรณ์ที่ใช้มีสายไฟ

  2. ตรวจสอบว่าได้ปิดอุปกรณ์โดยสมบูรณ์แล้ว และไม่ได้อยู่ในโหมดสลีปหรือสแตนด์บาย

  3. ปิดอุปกรณ์ไว้ 15 วินาที

  4. เปิดอุปกรณ์ของคุณ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การรีสตาร์ทเครือข่ายภายในบ้าน

  1. ถอดปลั๊กอุปกรณ์ออก

  2. ถอดปลั๊กโมเด็มและเราเตอร์

  3. รอ 30 วินาที

  4. เสียบปลั๊กโมเด็ม

  5. รอ 1 นาที

  6. เสียบปลั๊กเราเตอร์

  7. รอ 1 นาที

  8. เสียบปลั๊กอุปกรณ์

  9. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

โมเด็มและเราเตอร์บางรุ่นอาจใช้เวลาในการกลับมาเชื่อมต่อใหม่นานกว่า

การคืนค่าการตั้งค่าเริ่มต้นในการเชื่อมต่อ

หากมีการเปลี่ยนการตั้งค่าการเชื่อมต่อในอุปกรณ์ คุณต้องเปลี่ยนกลับเป็นค่าเริ่มต้น

การตั้งค่าเหล่านี้ได้แก่

  • การตั้งค่าโมเด็มที่กำหนดเอง

  • การตั้งค่า Virtual Private Network (VPN - เครือข่ายเสมือนส่วนบุคคล) หรือบริการพร็อกซี

  • การตั้งค่า DNS ที่กำหนดเอง

หากต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการแก้ไขการตั้งค่าเหล่านี้ โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์ของคุณ

เมื่อรีเซ็ตการตั้งค่าเหล่านี้แล้ว ให้ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การปรับปรุงสัญญาณ Wi-Fi

วิธีปรับปรุงสัญญาณ Wi-Fi

  • ย้ายเราเตอร์และอุปกรณ์ที่ใช้งานให้อยู่ใกล้กันมากขึ้น หากเป็นไปได้ ให้อยู่ในห้องเดียวกัน

  • ย้ายเราเตอร์ให้อยู่ห่างจากอุปกรณ์ไร้สายและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ

  • วางเราเตอร์ให้อยู่สูงจากพื้นในพื้นที่เปิดโล่ง เราเตอร์จะรับสัญญาณได้ดีขึ้นเมื่ออยู่บนโต๊ะหรือชั้นหนังสือ

การติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

หากขั้นตอนดังกล่าวไม่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย

ISP สามารถดำเนินการต่อไปนี้ได้

  • ตรวจสอบสภาพขัดข้องของอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ของคุณ

  • แก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับเราเตอร์หรือโมเด็ม และการตั้งค่าเครือข่ายที่ไม่ถูกต้อง

  • รีสตาร์ทหรือรีเซ็ตการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ

ระหว่างพูดคุย ให้แจ้งข้อมูลกับ ISP ดังต่อไปนี้

  • ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะในอุปกรณ์เครื่องเดียว หรืออุปกรณ์อื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน

  • อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้ Wi-Fi หรือใช้สายต่อโดยตรง

ก่อนจบการพูดคุยกับ ISP ให้ดำเนินการดังนี้

  • ไปที่ fast.com โดยใช้เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อทดสอบความเร็วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับ Netflix โดยตรง

  • ลองเล่นเนื้อหาใน Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่

เครื่องเล่นมีเดียสตรีมมิง

ตรวจสอบเครือข่ายว่าสามารถเล่น Netflix ได้หรือไม่

เครือข่ายสาธารณะ:

สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่

เครือข่ายส่วนตัว:

ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ

การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix


การตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

คุณสามารถทดสอบการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ได้โดยลองใช้แอปอื่นที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต บางอุปกรณ์สามารถทดสอบเครือข่ายได้ในการตั้งค่า

หากแอปอื่นๆ ใช้ไม่ได้ หรือได้รับข้อผิดพลาดของเครือข่าย โดยทั่วไปหมายความว่าอุปกรณ์ของคุณไม่ได้เชื่อมต่อ

หมายเหตุ:
เนื่องจากขั้นตอนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรือการแก้ไขปัญหาเครือข่ายจะแตกต่างกันไปในแต่ละอุปกรณ์ ฝ่ายบริการลูกค้าของ Netflix จึงไม่สามารถช่วยเหลือในขั้นตอนต่อไปนี้สำหรับอุปกรณ์ของคุณได้

หากต้องการดูขั้นตอนการเชื่อมต่อสำหรับอุปกรณ์ของคุณ

  • ตรวจสอบคำแนะนำหรือคู่มือที่มาพร้อมกับอุปกรณ์

  • ติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อขอรับความช่วยเหลือในการเชื่อมต่ออุปกรณ์กับอินเทอร์เน็ต

หากอุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่ออยู่ และยังพบปัญหานี้ ให้ดำเนินการขั้นตอนถัดไป

การรีสตาร์ทอุปกรณ์

  1. ถอดปลั๊กอุปกรณ์ออก

  2. กดปุ่มเปิด/ปิดบนอุปกรณ์หนึ่งครั้ง แล้วรอ 1 นาที หรือถอดปลั๊กทิ้งไว้ 3 นาที

  3. เสียบปลั๊กอุปกรณ์กลับเข้าไป

  4. เปิดอุปกรณ์แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การรีสตาร์ทเครือข่ายภายในบ้าน

  1. ปิดหรือถอดปลั๊กเครื่องเล่นมีเดียสตรีมมิงของคุณ
    ปิดเครื่องเล่นสตรีมมิงของคุณ รอ 10 วินาที จากนั้นเปิดเครื่องขึ้นอีกครั้ง

  2. ถอดปลั๊กโมเด็ม (และเราเตอร์ไร้สาย หากเป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหาก) ออกจากช่องเสียบปลั๊กไฟเป็นเวลา 30 วินาที

  3. เสียบปลั๊กโมเด็มของคุณและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ หากเราเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหากจากโมเด็ม ให้เสียบปลั๊กและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ

  4. เปิดเครื่องเล่นมีเดียสตรีมมิงขึ้นใหม่แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การคืนค่าการตั้งค่าเริ่มต้นในการเชื่อมต่อ

หากมีการเปลี่ยนการตั้งค่าการเชื่อมต่อในอุปกรณ์ คุณต้องเปลี่ยนกลับเป็นค่าเริ่มต้น

การตั้งค่าเหล่านี้ได้แก่

  • การตั้งค่าโมเด็มที่กำหนดเอง

  • การตั้งค่า Virtual Private Network (VPN - เครือข่ายเสมือนส่วนบุคคล) หรือบริการพร็อกซี

  • การตั้งค่า DNS ที่กำหนดเอง

หากต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการแก้ไขการตั้งค่าเหล่านี้ โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์ของคุณ

เมื่อรีเซ็ตการตั้งค่าเหล่านี้แล้ว ให้ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การปรับปรุงสัญญาณ Wi-Fi

วิธีปรับปรุงสัญญาณ Wi-Fi

  • ย้ายเราเตอร์และอุปกรณ์ที่ใช้งานให้อยู่ใกล้กันมากขึ้น หากเป็นไปได้ ให้อยู่ในห้องเดียวกัน

  • ย้ายเราเตอร์ให้อยู่ห่างจากอุปกรณ์ไร้สายและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ

  • วางเราเตอร์ให้อยู่สูงจากพื้นในพื้นที่เปิดโล่ง เราเตอร์จะรับสัญญาณได้ดีขึ้นเมื่ออยู่บนโต๊ะหรือชั้นหนังสือ

การติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

หากขั้นตอนดังกล่าวไม่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย

ISP สามารถดำเนินการต่อไปนี้ได้

  • ตรวจสอบสภาพขัดข้องของอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ของคุณ

  • แก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับเราเตอร์หรือโมเด็ม และการตั้งค่าเครือข่ายที่ไม่ถูกต้อง

  • รีสตาร์ทหรือรีเซ็ตการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ

ระหว่างพูดคุย ให้แจ้งข้อมูลกับ ISP ดังต่อไปนี้

  • ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะในอุปกรณ์เครื่องเดียว หรืออุปกรณ์อื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน

  • อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้ Wi-Fi หรือใช้สายต่อโดยตรง

ก่อนจบการพูดคุยกับ ISP ให้ดำเนินการดังนี้

  • ไปที่ fast.com โดยใช้เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อทดสอบความเร็วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับ Netflix โดยตรง

  • ลองเล่นเนื้อหาใน Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่

กล่องรับสัญญาณ

ตรวจสอบเครือข่ายว่าสามารถเล่น Netflix ได้หรือไม่

เครือข่ายสาธารณะ:

สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่

เครือข่ายส่วนตัว:

ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ

การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix


การตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

คุณสามารถทดสอบการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ได้โดยลองใช้แอปอื่นที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต บางอุปกรณ์สามารถทดสอบเครือข่ายได้ในการตั้งค่า

หากแอปอื่นๆ ใช้ไม่ได้ หรือได้รับข้อผิดพลาดของเครือข่าย โดยทั่วไปหมายความว่าอุปกรณ์ของคุณไม่ได้เชื่อมต่อ

หมายเหตุ:
เนื่องจากขั้นตอนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรือการแก้ไขปัญหาเครือข่ายจะแตกต่างกันไปในแต่ละอุปกรณ์ ฝ่ายบริการลูกค้าของ Netflix จึงไม่สามารถช่วยเหลือในขั้นตอนต่อไปนี้สำหรับอุปกรณ์ของคุณได้

หากต้องการดูขั้นตอนการเชื่อมต่อสำหรับอุปกรณ์ของคุณ

  • ตรวจสอบคำแนะนำหรือคู่มือที่มาพร้อมกับอุปกรณ์

  • ติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อขอรับความช่วยเหลือในการเชื่อมต่ออุปกรณ์กับอินเทอร์เน็ต

หากอุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่ออยู่ และยังพบปัญหานี้ ให้ดำเนินการขั้นตอนถัดไป

การรีสตาร์ทอุปกรณ์

  1. ถอดปลั๊กอุปกรณ์ออก

  2. กดปุ่มเปิด/ปิดบนอุปกรณ์หนึ่งครั้ง แล้วรอ 1 นาที หรือถอดปลั๊กทิ้งไว้ 3 นาที

  3. เสียบปลั๊กอุปกรณ์กลับเข้าไป

  4. เปิดอุปกรณ์แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การรีสตาร์ทเครือข่ายภายในบ้าน

  1. ปิดหรือถอดปลั๊กเครื่องเล่นมีเดียสตรีมมิงของคุณ
    ปิดเครื่องเล่นสตรีมมิงของคุณ รอ 10 วินาที จากนั้นเปิดเครื่องขึ้นอีกครั้ง

  2. ถอดปลั๊กโมเด็ม (และเราเตอร์ไร้สาย หากเป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหาก) ออกจากช่องเสียบปลั๊กไฟเป็นเวลา 30 วินาที

  3. เสียบปลั๊กโมเด็มของคุณและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ หากเราเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหากจากโมเด็ม ให้เสียบปลั๊กและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ

  4. เปิดเครื่องเล่นมีเดียสตรีมมิงขึ้นใหม่แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การคืนค่าการตั้งค่าเริ่มต้นในการเชื่อมต่อ

หากมีการเปลี่ยนการตั้งค่าการเชื่อมต่อในอุปกรณ์ คุณต้องเปลี่ยนกลับเป็นค่าเริ่มต้น

การตั้งค่าเหล่านี้ได้แก่

  • การตั้งค่าโมเด็มที่กำหนดเอง

  • การตั้งค่า Virtual Private Network (VPN - เครือข่ายเสมือนส่วนบุคคล) หรือบริการพร็อกซี

  • การตั้งค่า DNS ที่กำหนดเอง

หากต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการแก้ไขการตั้งค่าเหล่านี้ โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์ของคุณ

เมื่อรีเซ็ตการตั้งค่าเหล่านี้แล้ว ให้ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การปรับปรุงสัญญาณ Wi-Fi

วิธีปรับปรุงสัญญาณ Wi-Fi

  • ย้ายเราเตอร์และอุปกรณ์ที่ใช้งานให้อยู่ใกล้กันมากขึ้น หากเป็นไปได้ ให้อยู่ในห้องเดียวกัน

  • ย้ายเราเตอร์ให้อยู่ห่างจากอุปกรณ์ไร้สายและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ

  • วางเราเตอร์ให้อยู่สูงจากพื้นในพื้นที่เปิดโล่ง เราเตอร์จะรับสัญญาณได้ดีขึ้นเมื่ออยู่บนโต๊ะหรือชั้นหนังสือ

การติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

หากขั้นตอนดังกล่าวไม่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย

ISP สามารถดำเนินการต่อไปนี้ได้

  • ตรวจสอบสภาพขัดข้องของอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ของคุณ

  • แก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับเราเตอร์หรือโมเด็ม และการตั้งค่าเครือข่ายที่ไม่ถูกต้อง

  • รีสตาร์ทหรือรีเซ็ตการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ

ระหว่างพูดคุย ให้แจ้งข้อมูลกับ ISP ดังต่อไปนี้

  • ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะในอุปกรณ์เครื่องเดียว หรืออุปกรณ์อื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน

  • อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้ Wi-Fi หรือใช้สายต่อโดยตรง

ก่อนจบการพูดคุยกับ ISP ให้ดำเนินการดังนี้

  • ไปที่ fast.com โดยใช้เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อทดสอบความเร็วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับ Netflix โดยตรง

  • ลองเล่นเนื้อหาใน Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่

เครื่องเล่น Blu-ray

ตรวจสอบเครือข่ายว่าสามารถเล่น Netflix ได้หรือไม่

เครือข่ายสาธารณะ:

สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่

เครือข่ายส่วนตัว:

ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ

การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix


การตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

คุณสามารถทดสอบการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ได้โดยลองใช้แอปอื่นที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต บางอุปกรณ์สามารถทดสอบเครือข่ายได้ในการตั้งค่า

หากแอปอื่นๆ ใช้ไม่ได้ หรือได้รับข้อผิดพลาดของเครือข่าย โดยทั่วไปหมายความว่าอุปกรณ์ของคุณไม่ได้เชื่อมต่อ

หมายเหตุ:
เนื่องจากขั้นตอนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรือการแก้ไขปัญหาเครือข่ายจะแตกต่างกันไปในแต่ละอุปกรณ์ ฝ่ายบริการลูกค้าของ Netflix จึงไม่สามารถช่วยเหลือในขั้นตอนต่อไปนี้สำหรับอุปกรณ์ของคุณได้

หากต้องการดูขั้นตอนการเชื่อมต่อสำหรับอุปกรณ์ของคุณ

  • ตรวจสอบคำแนะนำหรือคู่มือที่มาพร้อมกับอุปกรณ์

  • ติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อขอรับความช่วยเหลือในการเชื่อมต่ออุปกรณ์กับอินเทอร์เน็ต

หากอุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่ออยู่ และยังพบปัญหานี้ ให้ดำเนินการขั้นตอนถัดไป

การรีสตาร์ทอุปกรณ์

  1. ถอดปลั๊กอุปกรณ์ออก

  2. กดปุ่มเปิด/ปิดบนอุปกรณ์หนึ่งครั้ง แล้วรอ 1 นาที หรือถอดปลั๊กทิ้งไว้ 3 นาที

  3. เสียบปลั๊กอุปกรณ์กลับเข้าไป

  4. เปิดอุปกรณ์แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การรีสตาร์ทเครือข่ายภายในบ้าน

  1. ปิดหรือถอดปลั๊กเครื่องเล่น Blu-ray

  2. ถอดปลั๊กโมเด็ม (และเราเตอร์ไร้สาย หากเป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหาก) ออกจากช่องเสียบปลั๊กไฟเป็นเวลา 30 วินาที

  3. เสียบปลั๊กโมเด็มของคุณและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ หากเราเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหากจากโมเด็ม ให้เสียบปลั๊กและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ

  4. เปิดเครื่องเล่น Blu-ray ขึ้นใหม่ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การคืนค่าการตั้งค่าเริ่มต้นในการเชื่อมต่อ

หากมีการเปลี่ยนการตั้งค่าการเชื่อมต่อในอุปกรณ์ คุณต้องเปลี่ยนกลับเป็นค่าเริ่มต้น

การตั้งค่าเหล่านี้ได้แก่

  • การตั้งค่าโมเด็มที่กำหนดเอง

  • การตั้งค่า Virtual Private Network (VPN - เครือข่ายเสมือนส่วนบุคคล) หรือบริการพร็อกซี

  • การตั้งค่า DNS ที่กำหนดเอง

หากต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการแก้ไขการตั้งค่าเหล่านี้ โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์ของคุณ

เมื่อรีเซ็ตการตั้งค่าเหล่านี้แล้ว ให้ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การปรับปรุงสัญญาณ Wi-Fi

วิธีปรับปรุงสัญญาณ Wi-Fi

  • ย้ายเราเตอร์และอุปกรณ์ที่ใช้งานให้อยู่ใกล้กันมากขึ้น หากเป็นไปได้ ให้อยู่ในห้องเดียวกัน

  • ย้ายเราเตอร์ให้อยู่ห่างจากอุปกรณ์ไร้สายและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ

  • วางเราเตอร์ให้อยู่สูงจากพื้นในพื้นที่เปิดโล่ง เราเตอร์จะรับสัญญาณได้ดีขึ้นเมื่ออยู่บนโต๊ะหรือชั้นหนังสือ

การติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

หากขั้นตอนดังกล่าวไม่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย

ISP สามารถดำเนินการต่อไปนี้ได้

  • ตรวจสอบสภาพขัดข้องของอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ของคุณ

  • แก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับเราเตอร์หรือโมเด็ม และการตั้งค่าเครือข่ายที่ไม่ถูกต้อง

  • รีสตาร์ทหรือรีเซ็ตการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ

ระหว่างพูดคุย ให้แจ้งข้อมูลกับ ISP ดังต่อไปนี้

  • ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะในอุปกรณ์เครื่องเดียว หรืออุปกรณ์อื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน

  • อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้ Wi-Fi หรือใช้สายต่อโดยตรง

ก่อนจบการพูดคุยกับ ISP ให้ดำเนินการดังนี้

  • ไปที่ fast.com โดยใช้เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อทดสอบความเร็วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับ Netflix โดยตรง

  • ลองเล่นเนื้อหาใน Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่

คอนโซลเครื่องเล่นวิดีโอเกม

PlayStation 5

ตรวจสอบเครือข่ายว่าสามารถเล่น Netflix ได้หรือไม่

เครือข่ายสาธารณะ:

สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่

เครือข่ายส่วนตัว:

ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ

การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix


การทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

  1. เริ่มต้นจาก "หน้าหลัก" ของ PS5

  2. เลือก Settings (การตั้งค่า) การตั้งค่า ที่ด้านบนขวา

  3. เลือก Network (เครือข่าย) > Connection Status (สถานะการเชื่อมต่อ) > Test Internet Connection (การทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต)

การรีสตาร์ทอุปกรณ์

  1. ถอดปลั๊กอุปกรณ์ออก

  2. กดปุ่มเปิด/ปิดบนอุปกรณ์หนึ่งครั้ง แล้วรอ 1 นาที หรือถอดปลั๊กทิ้งไว้ 3 นาที

  3. เสียบปลั๊กอุปกรณ์กลับเข้าไป

  4. เปิดอุปกรณ์แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การยืนยันการตั้งค่า DNS

  1. จากหน้าจอหลัก ให้ไปที่ Settings (การตั้งค่า) การตั้งค่า

  2. เลือก Network (เครือข่าย) > Settings (การตั้งค่า) > Set Up Internet Connection (ตั้งค่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต)

  3. เลือกประเภทการเชื่อมต่อที่ใช้ ดังนี้

    • สำหรับการเชื่อมต่อไร้สาย ให้เลือกชื่อเครือข่าย Wi-Fi > Advanced Settings (การตั้งค่าขั้นสูง)

    • สำหรับการเชื่อมต่อแบบใช้สาย ให้เลือก Wired LAN (LAN แบบใช้สาย) > Advanced Settings (การตั้งค่าขั้นสูง)

  4. เมื่อเข้าสู่การตั้งค่าในขั้นตอนถัดไป ให้เลือกตัวเลือกเหล่านี้

    • IP Address Settings (การตั้งค่าที่อยู่ IP) > Automatic (อัตโนมัติ)

    • DHCP Host (โฮสต์ DHCP) > Don't Specify (ไม่ระบุ)

    • DNS Settings (การตั้งค่า DNS) > Automatic (อัตโนมัติ)

    • Proxy Server (เซิร์ฟเวอร์พร็อกซี) > Don't Use (ไม่ใช้)

    • MTU Settings (การตั้งค่า MTU) > Automatic (อัตโนมัติ)

  5. เลือก OK (ตกลง) เพื่อทดสอบการเชื่อมต่อ

  6. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การรีสตาร์ทเครือข่ายภายในบ้าน

  1. ปิดอุปกรณ์ของคุณ แล้วถอดปลั๊กโมเด็มและเราเตอร์

  2. เมื่อผ่านไป 30 วินาที ให้เสียบปลั๊กโมเด็มและเราเตอร์

  3. รอ 1 นาที จากนั้นจึงเปิดอุปกรณ์

  4. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

หมายเหตุ:
อุปกรณ์ โมเด็ม และเราเตอร์บางรุ่นอาจใช้เวลานานกว่าในการกลับมาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกครั้ง

PlayStation 4

ตรวจสอบเครือข่ายว่าสามารถเล่น Netflix ได้หรือไม่

เครือข่ายสาธารณะ:

สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่

เครือข่ายส่วนตัว:

ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ

การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix


การทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

  1. เริ่มต้นจากหน้าจอหลักของ PS4

    • หากไม่ได้อยู่ที่หน้าจอหลัก ให้กดปุ่ม PS ตรงกลางของอุปกรณ์ควบคุมค้างไว้ แล้วเลือก "ปิดแอปพลิเคชัน" จากนั้นเลือก "ตกลง" เพื่อกลับสู่หน้าจอหลัก

  2. กด “ขึ้น” บน D-pad

  3. เลือก "การตั้งค่า"

  4. เลือก "เครือข่าย"

  5. เลือก "ทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต"

การรีสตาร์ทอุปกรณ์

  1. ถอดปลั๊กอุปกรณ์ออก

  2. กดปุ่มเปิด/ปิดบนอุปกรณ์หนึ่งครั้ง แล้วรอ 1 นาที หรือถอดปลั๊กทิ้งไว้ 3 นาที

  3. เสียบปลั๊กอุปกรณ์กลับเข้าไป

  4. เปิดอุปกรณ์แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การตรวจสอบการตั้งค่า DNS ของ PlayStation

  1. ไปที่เมนูหลัก แล้วเลือก Settings (การตั้งค่า)

  2. เลือก Network (เครือข่าย) > Set Up Internet Connection (ตั้งค่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต)

  3. เลือกประเภทการเชื่อมต่อที่ใช้ ดังนี้

    • สำหรับ Use Wi-Fi (ใช้ Wi-Fi) ให้เลือก Custom (กำหนดเอง), แล้วเลือกเครือข่าย Wi-Fi

    • สำหรับ Use a LAN Cable (ใช้สาย LAN) ให้เลือก Custom (กำหนดเอง) > Operation mode (โหมดปฏิบัติงาน)

  4. เมื่อเข้าสู่การตั้งค่าในขั้นตอนถัดไป ให้เลือกตัวเลือกเหล่านี้

    • IP Address Settings (การตั้งค่าที่อยู่ IP) > Automatic (อัตโนมัติ)

    • DHCP Host (โฮสต์ DHCP) > Don't Specify (ไม่ระบุ)

    • DNS Settings (การตั้งค่า DNS) > Automatic (อัตโนมัติ)

    • Proxy Server (เซิร์ฟเวอร์พร็อกซี) > Don't Use (ไม่ใช้)

    • MTU Settings (การตั้งค่า MTU) > Automatic (อัตโนมัติ)

  5. เลือก Test Connection (ทดสอบการเชื่อมต่อ)

  6. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การรีสตาร์ทเครือข่ายภายในบ้าน

  1. ปิดหรือถอดปลั๊กคอนโซลเครื่องเล่นวิดีโอเกม

  2. ถอดปลั๊กโมเด็ม (และเราเตอร์ไร้สาย หากเป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหาก) ออกจากช่องเสียบปลั๊กไฟเป็นเวลา 30 วินาที

  3. เสียบปลั๊กโมเด็มของคุณและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ หากเราเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหากจากโมเด็ม ให้เสียบปลั๊กและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ

  4. เปิดคอนโซลเกมขึ้นใหม่แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

หากขั้นตอนดังกล่าวไม่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย

ISP สามารถดำเนินการต่อไปนี้ได้

  • ตรวจสอบสภาพขัดข้องของอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ของคุณ

  • แก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับเราเตอร์หรือโมเด็ม และการตั้งค่าเครือข่ายที่ไม่ถูกต้อง

  • รีสตาร์ทหรือรีเซ็ตการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ

ระหว่างพูดคุย ให้แจ้งข้อมูลกับ ISP ดังต่อไปนี้

  • ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะในอุปกรณ์เครื่องเดียว หรืออุปกรณ์อื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน

  • อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้ Wi-Fi หรือใช้สายต่อโดยตรง

ก่อนจบการพูดคุยกับ ISP ให้ดำเนินการดังนี้

  • ไปที่ fast.com โดยใช้เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อทดสอบความเร็วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับ Netflix โดยตรง

  • ลองเล่นเนื้อหาใน Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่

PlayStation 3

ตรวจสอบเครือข่ายว่าสามารถเล่น Netflix ได้หรือไม่

เครือข่ายสาธารณะ:

สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่

เครือข่ายส่วนตัว:

ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ

การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix


การทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

  1. จากเมนูหลักของ PS3 ให้ไปที่ "การตั้งค่า"

    • หากไม่ได้อยู่ที่หน้าจอหลัก ให้กดปุ่ม "PS3" ตรงกลางของอุปกรณ์ควบคุมค้างไว้ แล้วเลือก "ออก" จากนั้นเลือก "ใช่" เพื่อกลับสู่หน้าจอหลัก

  2. เลือก "การตั้งค่าเครือข่าย"

  3. เลือก Internet Connection (การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต) และตรวจสอบว่าได้ตั้งค่าไว้ที่ Enabled (เปิดใช้งาน) หากตั้งค่าไว้ที่ "ปิดใช้งาน” ให้เลือกเป็น "เปิดใช้งาน"

  4. เลือก "ทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต"

    • หากสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ให้ตรวจสอบการตั้งค่าวันที่และเวลา

    • หากไม่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต อาจมีปัญหาเกิดขึ้นกับการเชื่อมต่อเครือข่าย

การรีสตาร์ทอุปกรณ์

  1. ถอดปลั๊กอุปกรณ์ออก

  2. กดปุ่มเปิด/ปิดบนอุปกรณ์หนึ่งครั้ง แล้วรอ 1 นาที หรือถอดปลั๊กทิ้งไว้ 3 นาที

  3. เสียบปลั๊กอุปกรณ์กลับเข้าไป

  4. เปิดอุปกรณ์แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การตรวจสอบการตั้งค่า DNS ของ PlayStation

  1. จากหน้าจอหลัก ให้เลือก Settings (การตั้งค่า)

  2. เลือก Network Settings (การตั้งค่าเครือข่าย) > Internet Connection Settings (การตั้งค่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต) > OK (ตกลง)

  3. เลือก Custom (กำหนดเอง)

  4. เลือกประเภทการเชื่อมต่อที่ใช้ ดังนี้

    • สำหรับ Wireless (ไร้สาย) ให้เลือกตัวเลือกต่อไปนี้

      • ในหัวข้อ WLAN ให้เลือกคำสั่ง Enter Manually (ป้อนข้อมูลด้วยตัวเอง)

      • เลือก IP Address Setting (การตั้งค่าที่อยู่ IP)

    • สำหรับ Wired Connection (การเชื่อมต่อแบบใช้สาย) ให้เลือก Auto-Detect (ตรวจหาอัตโนมัติ) สำหรับ Operation mode (โหมดปฏิบัติงาน)

  5. เมื่อเข้าสู่การตั้งค่าในขั้นตอนถัดไป ให้เลือกตัวเลือกเหล่านี้

    • IP Address Setting (การตั้งค่าที่อยู่ IP) > Automatic (อัตโนมัติ)

    • DHCP Host (โฮสต์ DHCP) > Do Not Set (ไม่ตั้งค่า)

    • DNS Setting (การตั้งค่า DNS) > Automatic (อัตโนมัติ)

    • Proxy Server (เซิร์ฟเวอร์พร็อกซี) > Do Not Use (ไม่ใช้)

    • MTU > Automatic (อัตโนมัติ)

    • UPnP > Enable (เปิดใช้)

  6. กดปุ่ม X เพื่อบันทึกการตั้งค่า

  7. เลือก Test Connection (ทดสอบการเชื่อมต่อ)

  8. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การรีสตาร์ทเครือข่ายภายในบ้าน

  1. ปิดหรือถอดปลั๊กคอนโซลเครื่องเล่นวิดีโอเกม

  2. ถอดปลั๊กโมเด็ม (และเราเตอร์ไร้สาย หากเป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหาก) ออกจากช่องเสียบปลั๊กไฟเป็นเวลา 30 วินาที

  3. เสียบปลั๊กโมเด็มของคุณและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ หากเราเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหากจากโมเด็ม ให้เสียบปลั๊กและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ

  4. เปิดคอนโซลเกมขึ้นใหม่แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

หากขั้นตอนดังกล่าวไม่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย

ISP สามารถดำเนินการต่อไปนี้ได้

  • ตรวจสอบสภาพขัดข้องของอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ของคุณ

  • แก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับเราเตอร์หรือโมเด็ม และการตั้งค่าเครือข่ายที่ไม่ถูกต้อง

  • รีสตาร์ทหรือรีเซ็ตการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ

ระหว่างพูดคุย ให้แจ้งข้อมูลกับ ISP ดังต่อไปนี้

  • ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะในอุปกรณ์เครื่องเดียว หรืออุปกรณ์อื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน

  • อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้ Wi-Fi หรือใช้สายต่อโดยตรง

ก่อนจบการพูดคุยกับ ISP ให้ดำเนินการดังนี้

  • ไปที่ fast.com โดยใช้เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อทดสอบความเร็วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับ Netflix โดยตรง

  • ลองเล่นเนื้อหาใน Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่

Xbox Series X/S

ตรวจสอบเครือข่ายว่าสามารถเล่น Netflix ได้หรือไม่

เครือข่ายสาธารณะ:

สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่

เครือข่ายส่วนตัว:

ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ

การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix


การทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

  1. กดปุ่ม Xbox บนอุปกรณ์ควบคุม Xbox เพื่อเปิด Guide (หน้าแนะนำ)

  2. จากเมนู Profile & system (โปรไฟล์และระบบ) ให้เลือก Settings (การตั้งค่า)

  3. เลือก General (ทั่วไป) > Network settings (การตั้งค่าเครือข่าย) > Test network connection (การทดสอบการเชื่อมต่อเครือข่าย)

    • หากการทดสอบล้มเหลว ให้ไปที่หน้าการสนับสนุนเครือข่าย Xbox สำหรับความช่วยเหลือเกี่ยวกับข้อความข้อผิดพลาดที่ปรากฏ

    • หากการทดสอบแสดงว่าอุปกรณ์เชื่อมต่อแล้ว ให้ดำเนินการต่อด้านล่าง

การตรวจสอบการตั้งค่า DNS ของ Xbox

  1. กดปุ่ม Xbox เพื่อเปิด Guide (หน้าแนะนำ)

  2. ในเมนู Profile & system (โปรไฟล์และระบบ) ให้เลือก Settings (การตั้งค่า)

  3. เลือก General (ทั่วไป) > Network Settings (การตั้งค่าเครือข่าย) > Advanced Settings (การตั้งค่าขั้นสูง) > DNS Settings (การตั้งค่า DNS)

  4. เลือก "อัตโนมัติ"

  5. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การรีสตาร์ทเครือข่ายภายในบ้าน

  1. ปิดอุปกรณ์ของคุณ แล้วถอดปลั๊กโมเด็มและเราเตอร์

  2. เมื่อผ่านไป 30 วินาที ให้เสียบปลั๊กโมเด็มและเราเตอร์

  3. รอ 1 นาที จากนั้นจึงเปิดอุปกรณ์

  4. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

หมายเหตุ:
อุปกรณ์ โมเด็ม และเราเตอร์บางรุ่นอาจใช้เวลานานกว่าในการกลับมาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกครั้ง

สิ่งที่ต้องทำต่อไป

เรากำลังตรวจสอบปัญหานี้ เพื่อช่วยเราค้นหาสาเหตุ โปรดติดต่อเรา

Xbox One

ตรวจสอบเครือข่ายว่าสามารถเล่น Netflix ได้หรือไม่

เครือข่ายสาธารณะ:

สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่

เครือข่ายส่วนตัว:

ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ

การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix


การทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

  1. กดปุ่ม Xbox บนอุปกรณ์ควบคุม Xbox เพื่อเปิด Guide (หน้าแนะนำ)

  2. จากเมนู Profile & system (โปรไฟล์และระบบ) ให้เลือก Settings (การตั้งค่า)

  3. เลือก General (ทั่วไป) > Network settings (การตั้งค่าเครือข่าย) > Test network connection (การทดสอบการเชื่อมต่อเครือข่าย)

    • หากการทดสอบล้มเหลว ให้ไปที่หน้าการสนับสนุนเครือข่าย Xbox สำหรับความช่วยเหลือเกี่ยวกับข้อความข้อผิดพลาดที่ปรากฏ

    • หากการทดสอบแสดงว่าอุปกรณ์เชื่อมต่อแล้ว ให้ดำเนินการต่อด้านล่าง

การตรวจสอบการตั้งค่า DNS ของ Xbox

  1. กดปุ่ม Xbox เพื่อเปิด Guide (หน้าแนะนำ)

  2. ในเมนู Profile & system (โปรไฟล์และระบบ) ให้เลือก Settings (การตั้งค่า)

  3. เลือก General (ทั่วไป) > Network Settings (การตั้งค่าเครือข่าย) > Advanced Settings (การตั้งค่าขั้นสูง) > DNS Settings (การตั้งค่า DNS)

  4. เลือก "อัตโนมัติ"

  5. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การรีสตาร์ทเครือข่ายภายในบ้าน

  1. ปิดหรือถอดปลั๊กคอนโซลเครื่องเล่นวิดีโอเกม

  2. ถอดปลั๊กโมเด็ม (และเราเตอร์ไร้สาย หากเป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหาก) ออกจากช่องเสียบปลั๊กไฟเป็นเวลา 30 วินาที

  3. เสียบปลั๊กโมเด็มของคุณและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ หากเราเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหากจากโมเด็ม ให้เสียบปลั๊กและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ

  4. เปิดคอนโซลเกมขึ้นใหม่แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

หากขั้นตอนดังกล่าวไม่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย

ISP สามารถดำเนินการต่อไปนี้ได้

  • ตรวจสอบสภาพขัดข้องของอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ของคุณ

  • แก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับเราเตอร์หรือโมเด็ม และการตั้งค่าเครือข่ายที่ไม่ถูกต้อง

  • รีสตาร์ทหรือรีเซ็ตการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ

ระหว่างพูดคุย ให้แจ้งข้อมูลกับ ISP ดังต่อไปนี้

  • ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะในอุปกรณ์เครื่องเดียว หรืออุปกรณ์อื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน

  • อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้ Wi-Fi หรือใช้สายต่อโดยตรง

ก่อนจบการพูดคุยกับ ISP ให้ดำเนินการดังนี้

  • ไปที่ fast.com โดยใช้เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อทดสอบความเร็วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับ Netflix โดยตรง

  • ลองเล่นเนื้อหาใน Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่

Xbox 360

ตรวจสอบเครือข่ายว่าสามารถเล่น Netflix ได้หรือไม่

เครือข่ายสาธารณะ:

สำหรับ Wi-Fi ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ โรงแรม หรือโรงเรียน ให้สอบถามว่ามีการบล็อกบริการวิดีโออย่างเช่น Netflix หรือไม่

เครือข่ายส่วนตัว:

ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อช้ากว่าความเร็วที่แนะนำของเราหรือไม่ แล้วติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณหากต้องการความช่วยเหลือ

การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น ฮอตสปอตของมือถือ เครือข่ายมือถือ หรือเครือข่ายดาวเทียม อาจช้าเกินไปสำหรับการใช้งาน Netflix


การทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

  1. จากเมนูหลักของ Xbox 360 ให้เลือก "การตั้งค่า"

  2. เลือก "การตั้งค่าระบบ"

  3. เลือก "การตั้งค่าเครือข่าย"

  4. ให้เลือก "เครือข่ายแบบใช้สาย" หรือ "เครือข่ายแบบไร้สาย" โดยขึ้นอยู่กับวิธีการใช้

  5. เลือก “ทดสอบการเชื่อมต่อ Xbox LIVE”

  6. เลือก "ดำเนินการต่อ"

    • หากการทดสอบการเชื่อมต่อประสบผลสำเร็จ ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อที่ด้านล่าง

    • หากทดสอบการเชื่อมต่อไม่สำเร็จ โปรดดูที่ ไซต์การสนับสนุนสำหรับ Xbox ของ Microsoft เพื่อรับความช่วยเหลือเพิ่มเติม

การตรวจสอบการตั้งค่า DNS ของ Xbox

  1. กดปุ่ม "นำทาง" บนอุปกรณ์ควบคุมของคุณ

  2. ไปที่ Settings (การตั้งค่า) แล้วเลือก System Settings (การตั้งค่าระบบ)

  3. เลือก Network Settings (การตั้งค่าเครือข่าย)

  4. เลือกเครือข่ายที่ใช้งาน แล้วเลือก Configure Network (กำหนดค่าเครือข่าย)

  5. เลือก DNS Settings (การตั้งค่า DNS) แล้วเลือก Automatic (อัตโนมัติ)

  6. ปิด Xbox แล้วเปิดขึ้นใหม่อีกครั้ง

  7. ลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การรีสตาร์ทเครือข่ายภายในบ้าน

  1. ปิดหรือถอดปลั๊กคอนโซลเครื่องเล่นวิดีโอเกม

  2. ถอดปลั๊กโมเด็ม (และเราเตอร์ไร้สาย หากเป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหาก) ออกจากช่องเสียบปลั๊กไฟเป็นเวลา 30 วินาที

  3. เสียบปลั๊กโมเด็มของคุณและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ หากเราเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่แยกต่างหากจากโมเด็ม ให้เสียบปลั๊กและรอจนกระทั่งไฟแสดงสถานะใหม่หยุดกะพริบ

  4. เปิดคอนโซลเกมขึ้นใหม่แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง

การติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

หากขั้นตอนดังกล่าวไม่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณเพื่อขอรับความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่าย

ISP สามารถดำเนินการต่อไปนี้ได้

  • ตรวจสอบสภาพขัดข้องของอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ของคุณ

  • แก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับเราเตอร์หรือโมเด็ม และการตั้งค่าเครือข่ายที่ไม่ถูกต้อง

  • รีสตาร์ทหรือรีเซ็ตการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ

ระหว่างพูดคุย ให้แจ้งข้อมูลกับ ISP ดังต่อไปนี้

  • ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะในอุปกรณ์เครื่องเดียว หรืออุปกรณ์อื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน

  • อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อโดยใช้ Wi-Fi หรือใช้สายต่อโดยตรง

ก่อนจบการพูดคุยกับ ISP ให้ดำเนินการดังนี้

  • ไปที่ fast.com โดยใช้เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อทดสอบความเร็วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับ Netflix โดยตรง

  • ลองเล่นเนื้อหาใน Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่

บทความที่เกี่ยวข้อง