Netflix และอุปกรณ์ค้าง
หากทั้ง Netflix กับอุปกรณ์ที่ใช้งานค้างและกลับไปที่อุปกรณ์ไม่ได้เลย โดยทั่วไปจะหมายความว่าต้องมีการรีเฟรชข้อมูลที่เก็บไว้ในอุปกรณ์
โปรดทำตามขั้นตอนสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งาน เพื่อแก้ไขปัญหา
ทีวีหรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับทีวี
ขั้นตอนเหล่านี้จะแก้ไขปัญหาการค้างในสมาร์ททีวีและอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับทีวี รวมทั้ง Streaming Stick และเครื่องเล่นมีเดีย, กล่องรับสัญญาณ, Apple TV และคอนโซลเกม Xbox หรือ PlayStation
การรีสตาร์ทอุปกรณ์
ปิดอุปกรณ์ของคุณ ถอดปลั๊ก หากอุปกรณ์ที่ใช้มีสายไฟ
ตรวจสอบว่าได้ปิดอุปกรณ์โดยสมบูรณ์แล้ว และไม่ได้อยู่ในโหมดสลีปหรือสแตนด์บาย
ปิดอุปกรณ์ไว้ 15 วินาที
เปิดอุปกรณ์ของคุณ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
การรีเฟรชหน่วยความจำของอุปกรณ์
ถอดปลั๊กอุปกรณ์ออก
กดปุ่มเปิด/ปิดบนอุปกรณ์หนึ่งครั้ง แล้วรอ 1 นาที หรือถอดปลั๊กทิ้งไว้ 3 นาที
เสียบปลั๊กอุปกรณ์กลับเข้าไป
เปิดอุปกรณ์แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
การออกจากระบบของ Netflix
ไปที่หน้าจอหลักของ Netflix จากนั้นไปทางด้านซ้ายเพื่อเปิดเมนู
จากด้านล่าง ให้เลือกขอความช่วยเหลือ > ออกจากระบบ > ใช่
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากอุปกรณ์อยู่ในหน้าจอข้อผิดพลาด ให้ทำดังนี้
เลือก "รายละเอียดเพิ่มเติม"
เลือก "ออกจากระบบ" หรือ "รีเซ็ต"
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หาไม่พบตัวเลือก รับความช่วยเหลือ หรือ ออกจากระบบ ให้ทำดังนี้
กดปุ่มต่อไปนี้บนรีโมทตามลำดับดังนี้ ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น
เลือก ออกจากระบบ รีเซ็ต หรือ ปิดใช้งาน จากเมนูที่ปรากฏ
การติดต่อบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์
สำหรับวิธีแก้ไขปัญหานี้ คุณจะต้องติดต่อบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ที่ใช้งาน
เมื่อพูดคุยกับทางผู้ผลิต ให้ขอความช่วยเหลือสำหรับขั้นตอนต่อไปนี้ หลังจากทำแต่ละขั้นตอนแล้ว ให้ลองใช้ Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าแก้ไขปัญหาได้หรือยัง
อัปเดตเฟิร์มแวร์หรือซอฟต์แวร์ของอุปกรณ์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
คืนค่าอุปกรณ์เป็นการตั้งค่าเริ่มต้น เหมือนตอนเปิดใช้ครั้งแรก
หากผู้ผลิตไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ หรือขั้นตอนเหล่านี้ใช้ไม่ได้ผล คุณจะต้องใช้อุปกรณ์อื่นในการรับชม Netflix
Chromecast
การรีสตาร์ทอุปกรณ์
ปิดอุปกรณ์ของคุณ ถอดปลั๊ก หากอุปกรณ์ที่ใช้มีสายไฟ
ตรวจสอบว่าได้ปิดอุปกรณ์โดยสมบูรณ์แล้ว และไม่ได้อยู่ในโหมดสลีปหรือสแตนด์บาย
ปิดอุปกรณ์ไว้ 15 วินาที
เปิดอุปกรณ์ของคุณ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
การรีเซ็ตค่าใน Chromecast ของคุณ
กดปุ่มบน Chromecast ค้างไว้ 25 วินาที หรือจนกระทั่งเห็นไฟแสดงสถานะกระพริบ
หมายเหตุ:การรีเซ็ตค่า Chromecast จะลบค่าต่างๆ ที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้ในอุปกรณ์ออกไป ทำตามขั้นตอนของ Google เพื่อตั้งค่า Chromecast ใหม่เมื่อรีเซ็ตค่าของอุปกรณ์แล้ว ให้เชื่อมโยงอุปกรณ์กับบัญชี Netflix ของคุณอีกครั้ง
iPhone หรือ iPad
การรีสตาร์ท iPhone หรือ iPad ที่ใช้งาน
กดปุ่มด้านข้างและปุ่มปรับระดับเสียงปุ่มหนึ่งค้างไว้พร้อมกันจนกว่าแถบเลื่อนจะปรากฏขึ้น ลากแถบเลื่อนด้านบนเพื่อปิดอุปกรณ์อย่างสมบูรณ์
หากแถบเลื่อนไม่ปรากฏ ให้กดปุ่ม Sleep/Wake ค้างไว้จนแถบเลื่อนสีแดงปรากฏขึ้น แล้วจึงลากแถบเลื่อนดังกล่าว
หลังจาก 10 วินาที กดปุ่ม Sleep/Wake
เมื่ออุปกรณ์เปิดทำงานเรียบร้อยแล้ว ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
การรีเซ็ตแอป Netflix
ไปที่หน้าจอหลัก แล้วแตะ "การตั้งค่า"
เลื่อนลงแล้วแตะ Netflix
เลื่อนสวิตช์รีเซ็ตไปที่ตำแหน่งเปิดเพื่อรีเซ็ตแอป
ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
การติดตั้งแอป Netflix ใหม่อีกครั้ง
ไปที่หน้าจอหลัก แล้วแตะที่แอป Netflix ค้างไว้
แตะ Remove App (ลบแอป) > Delete App (ลบแอป) > Delete (ลบ)
เปิด App Store และ ค้นหา "Netflix"
แตะที่ Netflix แล้วแตะไอคอนรูปคลาวด์เพื่อดาวน์โหลดแอป อาจต้องป้อนรหัสผ่าน Apple ID ของคุณ หากลืมรหัสผ่าน ให้ทำตามขั้นตอนรีเซ็ตรหัสผ่านของ Apple
เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ให้ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
โทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android
ปิดอุปกรณ์ แล้วเปิดใหม่
ปิดโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นการปิดเครื่อง ไม่ใช่แค่ล็อกหน้าจอ
เปิดเครื่องอีกครั้ง
ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
ติดตั้งแอป Netflix ใหม่อีกครั้ง
หากใช้โทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android ให้เปิดหน้า Netflix ใน Play Store จากนั้นแตะ "ถอนการติดตั้ง" แล้วแตะ "ติดตั้ง"
ขั้นตอนต่อไปนี้ใช้ติดตั้งแอปใหม่อีกครั้งได้เช่นกัน
เปิดแอป Play Store แล้วค้นหา "Netflix"
ค้นหาแล้วแตะที่แอป Netflix จากรายการที่แสดง
แตะ "ถอนการติดตั้ง"
แตะ "ติดตั้ง" แล้วรอจนระบบติดตั้งเสร็จ
แตะ "เปิด" แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
Xbox 360
การเข้าสู่ระบบ Xbox Live
ในการเชื่อมต่อ Xbox กับบัญชี Netflix ตรวจให้แน่ใจว่าได้เข้าสู่ระบบบัญชี Xbox Live ของคุณ
หากต้องการความช่วยเหลือในส่วนนี้ โปรดไปที่ไซต์การสนับสนุนของ Microsoft
เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว ให้ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
การรีสตาร์ทอุปกรณ์
ปิดอุปกรณ์ของคุณ ถอดปลั๊ก หากอุปกรณ์ที่ใช้มีสายไฟ
ตรวจสอบว่าได้ปิดอุปกรณ์โดยสมบูรณ์แล้ว และไม่ได้อยู่ในโหมดสลีปหรือสแตนด์บาย
ปิดอุปกรณ์ไว้ 15 วินาที
เปิดอุปกรณ์ของคุณ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
อุปกรณ์อื่นๆ ทั้งหมด
การรีเฟรชหน่วยความจำของอุปกรณ์
ถอดปลั๊กอุปกรณ์ออก
กดปุ่มเปิด/ปิดบนอุปกรณ์หนึ่งครั้ง แล้วรอ 1 นาที หรือถอดปลั๊กทิ้งไว้ 3 นาที
เสียบปลั๊กอุปกรณ์กลับเข้าไป
เปิดอุปกรณ์แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
การออกจากระบบของ Netflix
ไปที่หน้าจอหลักของ Netflix จากนั้นไปทางด้านซ้ายเพื่อเปิดเมนู
จากด้านล่าง ให้เลือกขอความช่วยเหลือ > ออกจากระบบ > ใช่
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากอุปกรณ์อยู่ในหน้าจอข้อผิดพลาด ให้ทำดังนี้
เลือก "รายละเอียดเพิ่มเติม"
เลือก "ออกจากระบบ" หรือ "รีเซ็ต"
ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หาไม่พบตัวเลือก รับความช่วยเหลือ หรือ ออกจากระบบ ให้ทำดังนี้
กดปุ่มต่อไปนี้บนรีโมทตามลำดับดังนี้ ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น
เลือก ออกจากระบบ รีเซ็ต หรือ ปิดใช้งาน จากเมนูที่ปรากฏ
การติดต่อบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์
สำหรับวิธีแก้ไขปัญหานี้ คุณจะต้องติดต่อบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ที่ใช้งาน
เมื่อพูดคุยกับทางผู้ผลิต ให้ขอความช่วยเหลือสำหรับขั้นตอนต่อไปนี้ หลังจากทำแต่ละขั้นตอนแล้ว ให้ลองใช้ Netflix อีกครั้งเพื่อดูว่าแก้ไขปัญหาได้หรือยัง
อัปเดตเฟิร์มแวร์หรือซอฟต์แวร์ของอุปกรณ์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
คืนค่าอุปกรณ์เป็นการตั้งค่าเริ่มต้น เหมือนตอนเปิดใช้ครั้งแรก
หากผู้ผลิตไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ หรือขั้นตอนเหล่านี้ใช้ไม่ได้ผล คุณจะต้องใช้อุปกรณ์อื่นในการรับชม Netflix