หากได้ยินเสียงแต่ไม่เห็นภาพวิดีโอ หรือหากวิดีโอเป็นสีดำขณะดู โดยทั่วไปจะหมายความว่า มีปัญหากับอุปกรณ์ หรือเคเบิลวิดีโอทำให้ Netflix แสดงภาพวิดีโอไม่ได้
โปรดทำตามขั้นตอนสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งาน เพื่อแก้ไขปัญหา
ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ หากใช้ทีวีหรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับทีวี เช่น Streaming Stick, เครื่องเล่นมีเดีย, Apple TV, กล่องรับสัญญาณ หรือเครื่องเล่น Blu-ray
ถอดปลั๊กอุปกรณ์ออก
กดปุ่มเปิด/ปิดบนอุปกรณ์หนึ่งครั้ง แล้วรอ 1 นาที หรือถอดปลั๊กทิ้งไว้ 3 นาที
เสียบปลั๊กอุปกรณ์กลับเข้าไป
เปิดอุปกรณ์แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
อาจมีปัญหาการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ที่ใช้กับทีวี
วิธีแก้ไขปัญหา
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้สาย HDMI
ให้ลองสลับปลายสาย HDMI
เลี่ยงไม่เชื่อมผ่านตัวรับสัญญาณหรือระบบเสียง โดยเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับทีวีโดยตรงโดยใช้สาย HDMI
ลองเชื่อมต่อกับพอร์ต HDMI ของทีวีพอร์ตอื่น
ลองใช้สายเคเบิล HDMI ใหม่
ถ้ามี ให้ลองพอร์ต HDMI ของทีวีเครื่องอื่น
หากสามารถสตรีมได้ในทีวีเครื่องอื่น แสดงว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับพอร์ต HDMI ของทีวีเครื่องเดิม โปรดติดต่อผู้ผลิตทีวีเพื่อขอความช่วยเหลือ
คุณอาจต้องเปลี่ยนการตั้งค่าวิดีโอหรือภาพ ในทีวีหรืออุปกรณ์ที่ใช้งาน หรือแก้ไขปัญหาวิดีโอ
วิธีรับข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการเปลี่ยนการตั้งค่าเหล่านี้ หรือวิธีแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับวิดีโอ
ตรวจสอบคู่มือหรือคำแนะนำที่มาพร้อมทีวีหรืออุปกรณ์ที่ใช้งาน
ติดต่อผู้ผลิตทีวีหรือผู้ผลิตอุปกรณ์ หรือค้นหาความช่วยเหลือจากเว็บไซต์ผู้ผลิต
หากพบปัญหาเดียวกันนี้กับรายการทีวีหรือภาพยนตร์อื่นๆ ด้วย ให้ข้ามขั้นตอนเหล่านี้
หากรายการทีวีหรือภาพยนตร์อื่นๆ เล่นได้ตามปกติ โปรดแจ้งปัญหาให้เราทราบ
ใช้เว็บเบราว์เซอร์ โดยไปที่ กิจกรรมการรับชม ในบัญชีของคุณ
ในรายการ ให้ค้นหารายการทีวีหรือภาพยนตร์ที่มีปัญหา แล้วคลิก "รายงานปัญหา"
ทำตามคำแนะนำ จากนั้นคลิก "รายงานปัญหา"
ทีมเนื้อหาจะดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด ในขณะเดียวกันนี้ คุณยังคงสามารถรับชมรายการทีวีและภาพยนตร์อื่นๆ ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วิธีรายงานปัญหาเกี่ยวกับเนื้อหา
ปิดอุปกรณ์ Android ที่ใช้งาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นการปิดเครื่อง ไม่ใช่แค่ล็อกหน้าจอ
เปิดเครื่องอีกครั้ง
ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
เปิด "การตั้งค่า"
ค้นหา "อัปเดตระบบ" หรือ "อัปเดตซอฟต์แวร์"
ตรวจสอบการอัปเดตที่มีให้บริการ แล้วติดตั้ง
ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
สำหรับวิธีแก้ไขปัญหานี้ คุณจะต้องติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ผลิตอุปกรณ์
อัปเดตอุปกรณ์เป็นซอฟต์แวร์หรือเฟิร์มแวร์เวอร์ชันล่าสุด
รีเซ็ตอุปกรณ์เป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน
หากผู้ผลิตไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ หรือขั้นตอนเหล่านี้ไม่ได้ผล ก็จะต้องใช้อุปกรณ์อื่นในการรับชม Netflix
เปิด App Switcher (โปรแกรมสลับแอป) โดยกดที่ปุ่มหน้าหลักสองครั้ง
ปัดแอปขึ้นเพื่อปิด
เปิดแอป แล้วลองอีกครั้ง
ขั้นตอนในการปิดแอปอาจแตกต่างกันในแต่ละอุปกรณ์ ดูขั้นตอนสำหรับอุปกรณ์ที่คุณใช้งานได้ที่เว็บไซต์การสนับสนุนของ Apple
กดปุ่มด้านข้างและปุ่มปรับระดับเสียงปุ่มหนึ่งค้างไว้พร้อมกันจนกว่าแถบเลื่อนจะปรากฏขึ้น ลากแถบเลื่อนด้านบนเพื่อปิดอุปกรณ์อย่างสมบูรณ์
หากแถบเลื่อนไม่ปรากฏ ให้กดปุ่ม Sleep/Wake ค้างไว้จนแถบเลื่อนสีแดงปรากฏขึ้น แล้วจึงลากแถบเลื่อนดังกล่าว
หลังจาก 10 วินาที กดปุ่ม Sleep/Wake
เมื่ออุปกรณ์เปิดทำงานเรียบร้อยแล้ว ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากอุปกรณ์ iOS มีตัวเชื่อมต่อ Lightning และคุณเชื่อมต่อกับ TV โดยใช้อะแดปเตอร์สายวิดีโอ อะแดปเตอร์ดังกล่าวอาจไม่รองรับ
วิธีตรวจสอบอะแดปเตอร์
ถอดสายเคเบิลที่เชื่อมต่ออะแดปเตอร์ออก จากนั้นเชื่อมต่อกับ iPhone หรือ iPad
ไปที่ Settings (การตั้งค่า) > General (ทั่วไป) > About (เกี่ยวกับ) > Apple HDMI Adapter (อะแดปเตอร์ Apple HDMI)
ตรวจสอบเลขที่รุ่น
หากเลขที่รุ่นคือ A1438 ระบบรองรับอะแดปเตอร์รุ่นนี้ แต่สายเคเบิลที่ใช้งานอาจเป็นสาเหตุของปัญหา ลองเชื่อมต่อกับพอร์ต HDMI ของทีวีพอร์ตอื่น หรือใช้สายเส้นอื่น
หากไม่เห็น A1438 หมายความว่า ระบบไม่รองรับอะแดปเตอร์รุ่นนี้ซึ่งทำให้เกิดปัญหา หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอะแดปเตอร์วิดีโอที่ระบบรองรับ ให้ไปที่เว็บไซต์การสนับสนุนของ Apple
หากต้องการใช้ iPhone หรือ iPad เพื่อรับชม Netflix ในทีวี ให้ใช้การเชื่อมต่อที่รองรับ
ไปที่เบราว์เซอร์ที่ Netflix รองรับเพื่ออัปเดตเว็บเบราว์เซอร์ หรือใช้เบราว์เซอร์อื่น
คุณอาจต้องอัปเดตไดรเวอร์วิดีโอของคอมพิวเตอร์ หรือติดตั้งไดรเวอร์วิดีโอที่ Windows 10 รองรับ
ฝ่ายบริการลูกค้าของ Netflix จะให้ความช่วยเหลือในขั้นตอนนี้ไม่ได้ หากไม่สะดวกที่จะดำเนินการด้วยตัวเอง ให้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ผลิตคอมพิวเตอร์
หากคอมพิวเตอร์ของคุณใช้การ์ดกราฟิกหรือ GPU ให้ใช้ซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งพร้อมตัวการ์ดเพื่ออัปเดตไดรเวอร์วิดีโอ
หากการอัปเดตไม่สามารถแก้ไขปัญหา หรือไม่มีอัปเดตที่พร้อมใช้งาน ให้ถอนการติดตั้งไดรเวอร์แล้วติดตั้งอีกครั้ง
หากไม่มีไดรเวอร์วิดีโอสำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณที่ Windows 10 รองรับ ให้ลองเล่น Netflix โดยใช้อุปกรณ์หรือเบราว์เซอร์อื่น เช่น Google Chrome, Mozilla Firefox หรือ Opera
ไปที่เบราว์เซอร์ที่ Netflix รองรับเพื่ออัปเดตเว็บเบราว์เซอร์ หรือใช้เบราว์เซอร์อื่น
หากต้องการใช้ Mac เพื่อรับชม Netflix ในทีวี ให้ใช้การเชื่อมต่อที่รองรับ
สำหรับความช่วยเหลือในการปิดฟีเจอร์เหล่านี้ ให้ติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Apple
คลิก "เพิ่มเติม" ที่มุมขวาบนของเบราว์เซอร์
คลิก "ความช่วยเหลือ" > "เกี่ยวกับ Google Chrome"
รอให้ Chrome ตรวจสอบการอัปเดตใหม่โดยอัตโนมัติ
หากมีอัปเดตที่พร้อมใช้งาน ให้คลิก "เปิดใหม่"
ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
คุณอาจต้องแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสายเคเบิลวิดีโอที่ใช้งาน หลังจากทำแต่ละขั้นตอนแล้ว ให้ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
สลับปลายสาย HDMI
ลองใช้พอร์ต HDMI อื่นของทีวีหรือหน้าจอ ถ้ามี
ลองใช้สายเคเบิล HDMI อื่น
คุณอาจกำลังใช้การถ่ายทอดหน้าจอของ Google Home เพื่อรับชม Netflix จากโทรศัพท์ ใช้ขั้นตอนด้านล่างนี้เพื่อปิดการถ่ายทอดหน้าจอแล้วส่งต่อโดยตรงจากแอป Netflix
ตรวจสอบว่าโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตอยู่ในเครือข่าย Wi-Fi เดียวกันกับอุปกรณ์ Chromecast
เปิดแอป Google Home
แตะอุปกรณ์ Chromecast ของคุณ แล้วแตะ Stop mirroring (หยุดการถ่ายทอดหน้าจอ)
เปิดแอป Netflix
เลือกรายการทีวีหรือภาพยนตร์ที่ต้องการรับชม
แตะไอคอน Cast (ส่งต่อ) จากหน้ารายละเอียดเนื้อหาเพื่อส่งต่อไปยังทีวีของคุณ
หากใช้งาน Playstation VR รุ่นแรก (CUH-ZVR1) ใน PlayStation 4 Pro ปัญหาอาจเกิดจากการตั้งค่า HDR ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อเปลี่ยนการตั้งค่า
การปิด HDR
จากหน้าจอหลัก PS4 ให้เลือก Settings (การตั้งค่า)
เลือก Sounds and screen (เสียงและหน้าจอ)
Select Video Output Settings (การตั้งค่าการเล่นวิดีโอ)
เลือก HDR
แล้ว ปิด HDR
ลองใช้ Netflix อีกครั้ง
หากวิธีนี้แก้ไขปัญหาได้แต่ยังต้องการสตรีม Netflix ในรูปแบบ HDR ให้ยกเลิกการเชื่อมต่อหน่วย PSVR แล้วรับชม Netflix จาก PlayStation 4 Pro โดยตรง
หากวิธีนี้แก้ไขปัญหาไม่ได้ หรือไม่ได้ใช้ PlayStation VR รุ่นแรกใน PlayStation 4 Pro ให้แก้ไขปัญหาต่อที่ด้านล่าง
ถอดปลั๊กอุปกรณ์ออก
กดปุ่มเปิด/ปิดบนอุปกรณ์หนึ่งครั้ง แล้วรอ 1 นาที หรือถอดปลั๊กทิ้งไว้ 3 นาที
เสียบปลั๊กอุปกรณ์กลับเข้าไป
เปิดอุปกรณ์แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
อาจมีปัญหาการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ที่ใช้กับทีวี
วิธีแก้ไขปัญหา
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้สาย HDMI
ให้ลองสลับปลายสาย HDMI
เลี่ยงไม่เชื่อมผ่านตัวรับสัญญาณหรือระบบเสียง โดยเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับทีวีโดยตรงโดยใช้สาย HDMI
ลองเชื่อมต่อกับพอร์ต HDMI ของทีวีพอร์ตอื่น
ลองใช้สายเคเบิล HDMI ใหม่
ถ้ามี ให้ลองพอร์ต HDMI ของทีวีเครื่องอื่น
หากสามารถสตรีมได้ในทีวีเครื่องอื่น แสดงว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับพอร์ต HDMI ของทีวีเครื่องเดิม โปรดติดต่อผู้ผลิตทีวีเพื่อขอความช่วยเหลือ
ถอดปลั๊กอุปกรณ์ออก
กดปุ่มเปิด/ปิดบนอุปกรณ์หนึ่งครั้ง แล้วรอ 1 นาที หรือถอดปลั๊กทิ้งไว้ 3 นาที
เสียบปลั๊กอุปกรณ์กลับเข้าไป
เปิดอุปกรณ์แล้วลองใช้ Netflix อีกครั้ง
อาจมีปัญหาการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ที่ใช้กับทีวี
วิธีแก้ไขปัญหา
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้สาย HDMI
ให้ลองสลับปลายสาย HDMI
เลี่ยงไม่เชื่อมผ่านตัวรับสัญญาณหรือระบบเสียง โดยเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับทีวีโดยตรงโดยใช้สาย HDMI
ลองเชื่อมต่อกับพอร์ต HDMI ของทีวีพอร์ตอื่น
ลองใช้สายเคเบิล HDMI ใหม่
ถ้ามี ให้ลองพอร์ต HDMI ของทีวีเครื่องอื่น
หากสามารถสตรีมได้ในทีวีเครื่องอื่น แสดงว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับพอร์ต HDMI ของทีวีเครื่องเดิม โปรดติดต่อผู้ผลิตทีวีเพื่อขอความช่วยเหลือ
เรากำลังตรวจสอบปัญหานี้ เพื่อช่วยเราค้นหาสาเหตุ โปรดติดต่อเรา